PANASONIC LUMIX G85…พร้อมลุยทุกเส้นทางการถ่ายภาพ

By - December 09, 2016 5684

ทุกก้าวของการเดินทางล้วนมีเรื่องราวให้บันทึกความทรงจำ

ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวต่างก็มีคุณค่า

ความพร้อมเท่านั้นที่จะหยุดทุกสิ่งให้อยู่ในเมมโมรี่การ์ด

ร่วมค้นพบความมหัศจรรย์ไปกับกล้องรุ่นล่าสุด

PANASONIC ตื่นจากภวังค์รุกการตลาดในปีนี้จนมียอดจัดจำหน่ายเติบโตขึ้นมากจะเห็นได้จากจำนวนรุ่นที่เพิ่มขึ้นและตอบโจทย์ความต้องการของคนถ่ายภาพได้ตรงใจชัดเจน อยากได้กล้องฟรุ้งฟริ้งต้องเลือกรุ่นไหน อยากได้กล้องโปรถ่ายวิดีโอควรเลือกรุ่นใด ด้วยการออกแบบรูปทรงกล้องสไตล์คลาสสิคมีทั้งแบบติดตั้งช่องมองภาพ และไม่มีช่องมองภาพ ตามกลุ่มนักถ่ายภาพที่จะนำไปใช้งาน แต่ไม้เด็ดของพานาโซนิคอยู่ที่เทคโนโลยีความละเอียดระดับ 4K ซึ่งในกล้องรุ่นใหม่ของพานาโซนิคทุกตัวต่อไปจากนี้จะมีเทคโนโลยีนี้ใส่เป็นมาตรฐาน

LUMIX G85 พัฒนาการต่อยอดกล้องรูปทรง SLR ทดแทนรุ่น G7 ที่ประสบความสำเร็จในการนำไปเป็นกล้องถ่ายวิดีโอสุดฮอต Facebook Live โดยรุ่นนี้เลือกผลิตบอดี้เป็นสีดำใช้วัสดุแม็กนีเซียมอัลลอยด์ (Magnesium Alloy) เพื่อให้ดูดุดันและโครงสร้างคงทนแข็งแรงเพิ่มความมั่นใจด้วยการซีลรอยต่อแต่ละจุดช่วยป้องกันฝุ่นและละอองน้ำ (Weather Sealed) ย้ำว่า...ไม่ใช่ลุยน้ำ หรือดำน้ำนะครับเพราะมักเข้าใจเองว่ามันหมายถึงเช่นนั้น เวลานำไปใช้งานก็ควรประกอบเลนส์ที่มีคุณสมบัติเดียวกันนี้ใช้คู่กันด้วย ความละเอียดของเซ็นเซอร์ให้มา 16 ล้านพิกเซล แบบไม่มี Low Pass Filter จึงแสดงรายละเอียดในทุกมิติให้เห็นเด่นชัดว่ามีความแตกต่างจากกล้องทั่วไปโดยเฉพาะในส่วนที่เป็น Highlight & Shadow ที่นักถ่ายภาพมักกังวลแต่เป็นส่วนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก หลายท่านแอบบอกว่าน่าจะให้มา 20 ล้านพิกเซลเหมือนรุ่นพี่ แต่นั่นอาจทำให้ Lumix G85 มีระดับราคาสูงขึ้นจากที่ประกาศจำหน่ายพร้อมเลนส์ LUMIX G VARIO 14-42mm / F3.5-5.6 II ASPH. / MEGA O.I.S. ที่ 37,990บาท ไปติดตามข้อมูลเพิ่มเติมกันเลยว่าจะมีฟังก์ชั่นใหม่ๆอะไรให้สนุกสนานกับการใช้งานบ้าง

LUMIX G85 ใช้เซ็นเซอร์แบบ Live MOS ขนาด Micro Four Thirds ฟอร์แมท 4:3 ให้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล แบบไม่มี Low Pass Filter ติดตั้งระบบป้องกันการสั่นไหวภายในตัวบอดี้ถึง 5 แกน (ช่วยได้ประมาณ5สตอป) เมื่อสวมเข้ากับเลนส์ที่มีระบบป้องกันความสั่นไหว (2แกน) ก็จะทำงานร่วมกันมีระบบ Gyrosensor คอยตรวจจับเป็นระบบ Dual I.S. 2 ที่รองรับทั้งการบันทึกภาพนิ่ง และภาพวิดีโอความละเอียด4Kอย่างเต็มรูปแบบดียิ่งขึ้น (ปัจจุบันรองรับเลนส์ 2 รุ่น คือLUMIX G VARIO 12-60mm F3.5-5.6 ASPH. POWER O.I.S. และ LUMIX G VARIO 14-140mm F3.5-5.6 ASPH. POWER O.I.S.) ตัวระบบขับเคลื่อนม่านชัตเตอร์ไฟฟ้า Electromagnetic Drive ทำให้เกิดความสั่นไหวในระบบต่ำหรือแทบจะไม่เกิดขึ้นเมื่อกดชัตเตอร์แต่ละครั้ง

LUMIX G85 ออกแบบสันกริปด้ามจับให้โค้งมนแต่มีสันเหลี่ยมจับถนัดมือโดยไม่ต้องออกแรงจับมากแต่ให้ความมั่นใจว่าจะไม่ร่วงหลุดจากมือ แป้นโหมดด้านบนได้ออกแบบ ให้สโลฟลงทั้งซ้าย และขวา เพื่อความถนัดเวลาขยับนิ้วหมุนปรับตั้งค่าใช้งานไม่ว่าจะเปลี่ยนโหมดถ่ายภาพหรือเปลี่ยนโหมดฟังก์ชั่นพิเศษทางด้านซ้าย ส่วนกลางบริเวณกะโหลกมีแฟลชแบบป๊อปอัพซ่อนอยู่เอาไว้ช่วยเปิดเงา หรือกระตุ้นสั่งงานแฟลชภายนอกก็ได้ ด้านหลังพัฒนาช่องมองภาพขนาดใหญ่กำลังขยาย 0.74 เท่าความละเอียด 2.36 ล้านจุดแบบ OLED มีติดยางรองตาแบบถอดออกไม่ได้พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับสัญญานที่ด้านบนสามารถตั้งค่าให้ระบบหยุดการทำงานชั่วคราวภายในเวลาที่กำหนดไว้ได้

LUMIX G85 ออกแบบจอทัชสกรีนให้พลิกออกด้านข้าง (Free-Angle Monitor) รองรับการทำงานภาพวิดีโอให้คล่องตัวในแต่ละมุมมองด้วยหน้าจอขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.04 ล้านจุด อย่างที่ทราบดีอยู่แล้วว่ามันสะดวกมากกับการยกกล้องสูงๆ แล้วพลิกจอก้มลงเพื่อให้มองขึ้นจากพื้นแล้วจัดองค์ประกอบภาพไปด้วย หรือมุมเงยตามเก็บการเคลื่อนที่จากมุมต่ำเพื่อให้ได้มุมยิ่งใหญ่อลังการ การทัชสกรีนนี้ยังสัมพันธ์กับการเลื่อนตำแหน่งจุดโฟกัสเมื่อเล็งภาพผ่านช่องมองภาพ (LVF) ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีงามเพราะช่างภาพไม่ต้องละสายตาจากวัตถุหรือเสียเวลากดปุ่มโยกไปมาซึ่งมีเพียงไม่กี่รุ่นที่สามารถทำเช่นนี้ได้

LUMIX G85 มี Dual Dial Control สามารถปรับค่าและเลือกตั้งค่ามาตรฐานให้ควบคุมค่าต่างๆตามถนัดได้ กลางแป้น Dial หลังจะเป็นปุ่ม Oparation Switch สามารถเซ็ทสำหรับตั้งค่าต่างๆได้ โดยมาตรฐานจากโรงงานจะเป็นการควบคุมไวท์บาลานซ์ (WB) และค่าความไวแสง (ISO) บางท่านสงสัยถามว่าต่างอย่างไรกับแป้นที่มีด้านหลัง คำตอบคือ เพียงละนิ้วมากดปุ่มเราก็สามารถเปลี่ยนค่า WB ได้จาก Front Dial และเปลี่ยนค่า ISO ด้วยการหมุน Rear Dial ข้างหน้าจะมีปุ่มสีแดงสำหรับกดบันทึกภาพวิดีโอ และปุ่มFn ที่จะเป็นคีย์ลัดในการตั้งค่าเช่นกัน เวลาวางนิ้วจับกล้องด้านหลังบนจะมีก้านโยกสลับการทำงานของรูปแบบการโฟกัส ได้แก่ MF, AF-C, AF-S/AFF ตรงกลางจะเป็นปุ่มตั้งค่าให้เป็นล็อกความจำแสงหรือ ล็อกโฟกัสได้ (AF/AE Lock)

LUMIX G85 เข้าถึงโหมดการถ่ายภาพ 4K Photo กับฟังก์ชั่นพิเศษ Post Focus ด้วยการหมุนแป้นด้านซ้ายไปที่สัญลักษณ์ภูเขาและดอกไม้ เมื่อกดชัตเตอร์กล้องจะใช้เวลาไล่ตำแหน่งจุดโฟกัสจากหน้าไปถึงหลังสักครู่ จากนั้นเราสามารถเข้าไปเลือกในโหมด Play Back เพื่อระบุตำแหน่งที่จะให้ชัดเพียงจุดใดจุดหนึ่ง หรือเลือกครอบคลุมบริเวณพื้นที่ชัดได้จากเมนู Focus Stacking ที่มีการพัฒนาให้สามารถรวมเลเยอร์สำเร็จเป็นไฟล์ใหม่ในตัวกล้องเลย ใครชอบบ่นว่าถ่ายใกล้ๆ ทำไมทำให้ชัดหมดไม่ได้หรือไงมีตัวช่วยแล้วฟังก์ชั่นนี้จะทำให้คุณเป็นสุดยอดนักถ่ายภาพมาโครได้ในพริบตา นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น Light Composition เมื่อถ่ายภาพ 4K Burst ต่อเนื่องยาวๆ มาทำการรวมภาพจากไฟล์วิดีโอให้เป็นภาพนิ่งได้ โดยมีให้เลือก 2 แบบ คือ Composite Merging และ Range Merging แบบแรกเหมาะกับการรวมภาพที่ไม่มีความต่อเนื่องของแสงไฟ ส่วนแบบที่สองเหมาะกับการรวมภาพการวาดแสงที่มีความต่อเนื่อง

LUMIX G VARIO 14-42mm f3.5-5.6 II ASPH. MEGA O.I.S., f5.6, 1/400s, ISO200

f11, 1/500s, ISO200,AWB, Focal Length 58mm

เมื่อถ่ายภาพด้วยโหมด POST FOCUS เสร็จจึงเข้าไปเลือก Focus Stacking ในเมนู Play Back
เพื่อเลือกช่วงระยะชัดจากนั้นสั่งรวมเลเยอร์เป็นภาพนิ่งเป็นภาพเดียว

LUMIX G85 นำการถ่ายภาพ 4K Video มาใช้กับการนำเสนอภาพให้เคลื่อนไหวภายในระยะเวลา 20 วินาทีหรือ 40 วินาที ด้วยฟังก์ชั่น 4K Live Cropping ซึ่งสามารถนำเทคนิคการถ่ายภาพ Panning และ Zooming มาใช้ได้เพียงตั้งกล้องไว้นิ่งๆ ภาพจะถูกบันทึกตามที่ป้อนพื้นที่การ Start และ End ไว้ให้แบบอัตโนมัติ ความละเอียดของภาพจะเป็นแบบ Full HD เนื่องจากเทคโนโลยีที่นำมาใช้เป็นการครอปพื้นที่บางส่วนของเซ็นเซอร์มาประมวลผลจึงถูกทอนคุณภาพลงแต่ก็เพียงพอต่อความคมชัด ฟังก์ชั่นนี้ช่วยให้มือสมัครเล่นไม่จำเป็นต้องลงทุนในการหา Dolly มาใช้งานก็สามารถได้งานราวกับมืออาชีพทีเดียว การเลือกใช้ฟังก์ชั่นนี้ต้องหมุนแป้นโหมดการถ่ายภาพไปที่สัญลักษณ์กล้องวิดีโอก่อนเวลาบันทึกภาพก็กดปุ่มชัตเตอร์ การกำหนดเฟรมล่วงหน้าแล้วมีวัตถุเคลื่อนที่เข้ามาจะทำให้คลิปมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น

LUMIX G85 ยังคงมีโหมด Time-lapse สำหรับบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาหลายนาที หรือหลายชั่วโมงที่ผ่านมาให้แสดงภาพเป็นวิดีโอได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที ซึ่งสะดวกมากในการแสดงผลจากภาพนิ่งจำนวนมากให้เหมือนเลื่อนภาพอย่างรวดเร็วกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวดุจมีชีวิต การตั้งค่าทำได้โดยหมุนแป้นโหมดด้านซ้ายไปที่สัญลักษณ์นาฬิกาตัวสุดท้ายทุกครั้งก่อนกดชัตเตอร์ แต่สามารถเข้าไปตั้งค่าในเมนูไว้ล่วงหน้าว่าจะบันทึกกี่ภาพ แต่ละภาพให้บันทึกห่างกันกี่วินาที และจะเริ่มบันทึกทันที หรือตั้งเวลาล่วงหน้าไว้ก่อน ท่านที่ทดลองบันทึกภาพโหมดนี้แล้วจะติดใจเกิดความสนุกสนานจากการได้เห็นสิ่งที่สายตาเราไม่สามารถทำได้ช่างคุ้มค่ากับการเฝ้ารอ มักมีคำถามว่าหากบันทึกภาพนิ่งเรียบร้อยครบตามที่กำหนดแล้วจะสามารถบันทึกวิดีโอภายหลังได้หรือไม่ คำตอบคือทำได้เพียงแต่ต้องทำในกล้องพานาโซนิคเท่านั้น

LUMIX G85 ปรับโทนสีภาพด้วย Photo Style ที่มีให้เลือกทั้งโทนภาพสี, ภาพขาวดำ และภาพซีเปีย เพียงเข้าไปเลือกจากเมนู หรือเข้าปุ่มลัด Q.Menu ภาพจริงจะแสดงผลทันทีผ่านจอ LCD คุณสามารถตัดสินใจได้เลยว่าชอบรูปแบบโทนสีใด หากยังไม่พอใจยังมีเอ็กเฟ็กซ์แบบฟิลเตอร์ให้เลือกอีก 22 รูปแบบที่ไม่เหมือนใคร ในเมนูจะเลือกคำสั่งให้บันทึกภาพต้นฉบับที่ไม่ใส่เอ็กเฟ็กซ์เก็บคู่ไว้พร้อมกันได้ด้วยเหมาะมากกับการอยู่ในห้วงของการตัดสินใจก่ำกึ่งว่าจะเอาแบบไหนดี แต่จะกินทรัพยากรของเมมโมรี่การ์ดเป็นสองเท่าดังนั้นจึงควรสำรองเมมโมรี่การ์ดแบบ SDXC เพิ่มอีกอย่างน้อย1ใบ แบตเตอรี่ก็เช่นกันเพื่อป้องกันความสนุกจะสะดุดไม่ต่อเนื่องเพราะถ้าเห็นอะไรสวยๆ แต่เก็บใส่เมมโมรี่การ์ดไม่ได้จะเศร้าอย่างรุนแรง

SEPIA

L.Monochrome

LUMIX G85 เติมเต็มมุมมองสุดสายตาด้วยโหมดพาโนรามาทั้งแนวตั้ง และแนวนอน โดยยังคงใส่โทนสี และฟิลเตอร์ลงไปสร้างสรรค์ภาพร่วมได้เกือบทุกเอฟเฟ็กต์ โดยมีทริคในการถ่าย คือพยายามยืนให้มั่นคงแล้วค่อยๆแพนกล้องจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง พยายามรักษาระดับความเร็วในการแพนให้คงที่ และสังเกตแถบสีขาวด้านล่างที่จอแสดงผล ถ้านำการแพนแนวตั้งมาบันทึกภาพแนวราบจะช่วยให้ภาพมีความสูงกินพื้นที่ในเฟรมเพิ่มขึ้นกว่าการแพนปกติ(เปรียบเทียบจากภาพตัวอย่าง) ซึ่งพานาโซนิคจะต่อภาพในตัวได้เนียนมากหากมีวัตถุเคลื่อนที่ในภาพอาจมีการซ้ำในภาพได้

LUMIX G85 ทำให้หนึ่งวันมีคุณค่าเพิ่มขึ้นเห็นอะไรก็บันทึกเก็บภาพแล้วแชร์เล่าเรื่องราวได้ทันทีผ่านแอพพลิเคชั่น Image App ซึ่งขนาดไม่ได้เล็กหรือใหญ่จนเกินงามใครที่แอบบ่นว่าเล็กสามารถนำ Vertical Grip (DMW BGG-1) ประกอบกับบอดี้ก็จะช่วยให้ทำงานคล่องตัวขึ้นไปอีก สำหรับงานวิดีโอจะมีช่องต่อ 3.5 มม. ต่อไมโครโฟนเพิ่มได้ และมี 4:2:2/8 Bit HDMI Live Output ให้เลือกใช้งานทำให้สามารถนำไป Live ได้แน่นอนว่าภาพใสปิ๋งโดดเด่นกว่าการใช้สมาร์ทโฟนเป็นไหนๆ ยังมีลูกเล่นแต่ละจุดให้ได้เล่นสนุกสนานมากมายไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพคร่อมแสง, คร่อมไวท์บาลานซ์, การแปลง RAW File ได้ในตัวกล้อง ที่สำคัญคือ ไม่กลัวฝน (ไม่ต้องออกไปตากฝนนะ) สามารถยืนถ่ายภาพริมระเบียง หรือบริเวณน้ำตกที่มีละอองน้ำกระเซ็นได้แบบสบายใจ เมื่อถ่ายภาพเสร็จควรรีบนำผ้าซับละอองน้ำทันทีและผึ่งให้ความชื้นหมดก่อนจะเก็บในกระเป๋าหรือตู้กันความชื้นหลังกลับจากทริป...

BIG Camera ศูนย์รวมกล้องดิจิตอล ที่มีความสุขให้เลือกมากที่สุด ขอมอบสิ่งดีๆ เสริฟถึงที่ด้วยสาระความรู้ ความสนุก สอดแทรกแง่คิดดีๆ อย่างนี้เป็นประจำทุกเดือน อยากรู้อยากสนุกกับการนำเสนอกล้องรุ่นใหม่ๆผ่านตัวหนังสือ และภาพถ่าย อย่าพลาด! ติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาความรู้ควบคู่กับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ไม่เคยหยุดนิ่งของโลกใบนี้ แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ครั้งต่อไป...สวัสดีครับ