เมื่อ พ.ศ. 2538 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ด้วยพระกรุณาธิคุณ พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สภากาชาดไทยจัดชุดแพทย์เพื่ออกปฎิบัติงาน โดยมุ่งเน้นบรรเทาทุกข์ให้กับผู้สูงอายุที่ยากไร้และด้อยโอกาสในถิ่นธุรกันดารที่มีปัญหาโรคตา ให้ได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และทำการผ่าตัดให้กับผู้ยากไร้ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาโรคตา ได้แก่ ต้อกระจก ต้อหิน ต้อเนื้อ ท่อทางเดินน้ำตาอุดตัน โรคของเปลือกตา เป็นต้น โดยพระราชทานนามว่า
หน่วยแพทย์จักษุศัลยกรรมสภากาชาดไทย
ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี
ในแต่ละปีหน่วยแพทย์จักษุศัลยกรรมสภากาชาดไทยฯ ต้องใช้งบประมาณกว่า 15 ล้านบาท เพื่อให้บริการตรวจรักษาผ่าตัดผู้ป่วยที่ยากไร้ทั่วประเทศไทย โดยในปี 2559 ที่ผ่านมา มีผู้มารับบริการตรวจรักษาจำนวนกว่า 10,000 ราย และทำการรักษาด้วยการผ่าตัดตากว่า 4,000 ราย
โดยการปฏิบัติงานแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ การปฏิบัติงานประจำ ณ สถานีกาชาดที่ 6 อรัญประเทศ เฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดสระแก้ว, การปฏิบัติงาน ณ โรงพยาบาลประจำอำเภอในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีจักษุแพทย์ และโครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่ฯ ซึ่งเป็นรถผ่าตัดเคลื่อนที่ออกปฏิบัติงานระดับตำบลโดยมีทีมจักษุแพทย์ลงพื้นที่ปฏิบัติงาน นอกจากจะให้บริการตรวจรักษาผ่าตัดประชาชนทั่วไปแล้ว ยังให้บริการการตรวจรักษาผ่าตัดตาแก่พระภิกษุ แม่ชีและนักบวชทุกศาสนาอีกด้วย
ตลอดระยะเวลา 22 ปี หน่วยแพทย์จักษุศัลยกรรมสภากาชาดไทยฯ ได้ดำเนินการรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคตามาแล้วกว่า 185,000 ราย และผ่าตัดรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคตามาแล้วกว่า 53,000 ราย
โครงการเปิดตาดีสู่สังคมไทย จัดตั้งขึ้นเพื่อระดมทุนและจัดหาเงินบริจาคโดยไม่หักค่าใช้จ่าย เพื่อมอบให้กับหน่วยแพทย์จักษุศัลยกรรมสภากาชาดไทยฯ ได้นำไปใช้ในการผ่าตัดให้กับผู้ป่วยที่ขาดแคลนและยากไร้ อีกเป็นจำนวนมากที่ยังรอแสงสว่างในการกลับมามองเห็นอีกครั้ง