เทคนิคการใช้แสงแฟลช


 

          สวัสดีรับวันสงกรานต์อันชุ่มฉ่ำแฟนๆ BIG Camera มีทริปในวันหยุดยาวที่ไหนก็ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ แล้วอย่าลืมนำภาพมาอวดกันกันบ้างนะครับ วันนี้เป็นการเก็บตกเทคนิคการถ่ายภาพที่นำมาเล่าสู่กันฟังโดยมีที่มาที่ไปจากงานเปิดตัวกล้อง Olympus สุดฮอตอย่าง OM-D เมื่อเย็นวานที่ผ่านมา ณ BIG Camera Galleria สาขา Central World โดยมีช่างภาพชั้นนำของเมืองไทยมารวมตัวกันมากหน้าหลายตา อาทิ อ.ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ ช่างภาพแนวไฟน์อาร์ต, พี่โจ้ ศุภสิทธิ์ ศรีสวัสดิ์ศักดิ์ ช่างภาพแถวหน้าที่มีผลงานในนิตยสารแฟชั่นชั้นนำ

          มีช่วงหนึ่งเป็นการสาธิตการถ่ายภาพแบบ Reality ซึ่งทางพี่โจ้ให้เกียรติสาธิตให้ดูกันอย่างใกล้ชิด และเซ็ทอุปกรณ์กันสดๆ ซึ่งคอนเซ็ปท์นั้นเข้ากับวันสงกรานต์มาก คือ กล้องไม่กลัวน้ำ โดยนางแบบที่หลงรับคำท้ามาช่วยทดสอบก็คุ้นหน้ากันบน Catwalk เป็นใครไม่ได้นอกจากมาริสา แอนนิต้า

          ไฟแฟลชสตูดิโอเพียงดวงเดียว ผสมกับแฟลช Olympus อีก 2 ตัว วางทางด้านหลังทั้งด้านซ้าย และด้านขวาของนางแบบ เพื่อให้ได้แสงคมๆ จากด้านหน้า และสร้างแสง Rim Light ที่ส่องมาจากด้านหลัง

 

 
 
          ภาพทางซ้าย และทางด้านขวาใช้กล้องตัวเดียวกัน ช่างภาพคนเดิม แต่แตกต่างกันในเรื่องของแสงแฟลชที่ส่องจากด้านหน้าเปิดรายละเอียด ส่วนด้านหลังใช้เพียงดวงเดียวเพื่อให้เกิดแสงจากกลางตัวแบบ ส่องไปถึงตัวร่มจนเห็นละอองน้ำในบรรยากาศของฝนตกเพิ่มมิติ รวมถึงเรื่องราวในภาพให้เข้ากับสมรรถนะของกล้องที่ทนต่อฝุ่น และละอองน้ำได้อย่างดี

 

 

          มีการจำลองละอองฝนด้วยเครื่องฉีดน้ำอัตโนมัติที่สามารถปรับขนาดของละอองน้ำได้เลือกมาใช้จำนวน 2 ตัว แยกไว้เป็นสองฝั่งเช่นเดียวกับแฟลช

          ไฟแฟลชสตูดิโอ เป็นหัวประเภทพาวเวอร์ แพค (Power Pack) ติดจานสะท้อนแสงขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Beuty Dish และครอบ Honey Comb Grid ไปอีกชั้น เพื่อให้แสงมีความคม แต่บังคับทิศทางแสงไม่ให้ฟุ้งกินพื้นที่ไปถึงฉากหลังที่เป็นสีดำ

          ไฟแฟลชของ Olympus ทั้งสองตัวเปิดกำลังไฟเป็นแบบ Manual เต็มกำลังไฟทั้งคู่ โดยเลือกค่าการรับสัญญานแสงแบบ Slave เพื่ออาศัยแสงไฟหน้ากระตุ้นให้ทำงานพร้อมกันเมื่อกดชัตเตอร์

          ส่วนกล้องทางพี่โจ้ ตั้งค่าช่องรับแสงที่ F7.1 เพื่อให้เก็บรายละเอียดของกล้อง OM-D กับตัวนางแบบได้คมชัด และตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ที่ 1/160 วินาที เพื่อหยุดละอองน้ำให้เป็นเม็ดสวยงาม

          เมื่อเซ็ททุกอย่างเรียบร้อยก็เริ่มบันทึกภาพมีการสื่อสารกับนางแบบว่าช่างภาพต้องการอะไรจะให้สื่ออารมณ์อย่างไร จะโพสต์ท่าทางประมาณไหน เพื่อให้ทุกอย่างลงตัวกับตำแหน่งไฟ และอื่นๆ ที่เตรียมไว้ล่วงหน้าก่อนนางแบบจะออกมา

 

 
 
          มาลองดูภาพเปรียบเทียบอีกคู่ที่ให้อารมณ์ภาพแตกต่างกันอีกแล้วด้วยแสงที่ส่องจากด้านหลังทั้งสองด้านที่ไม่มารบกวนการทำงานของแสงด้านหน้า แต่มาช่วยเสริมมิติภาพให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นจากละอองน้ำที่พ่นเสปย์ออกมา และแสงตามไล้ผิวช่วงแขน ลำตัว ตลอดจนเส้นผมด้านบนแยกออกจากตัวร่มโปร่งแสงที่มีละอองน้ำเกาะตัวอยู่ทั่วบริเวณ เรียกว่าได้อารมณ์ลุยๆ กว่าเยอะเลย

 

 

          เห็นผลงานที่นำมาฝากแล้วคันไม้คันมืออยากหยิบกล้องไปสร้างสรรค์ภาพเองหรือเปล่าในวันสงกรานต์นี้สามารถดัดแปสงเทคนิคการให้แสงเช่นนี้ไปใช้ได้แน่นอน ส่วนจะสาดน้ำเข้าไปหาตัวแบบอย่างไรนั้นก็ระวังกล้อง กับอุปกรณ์ที่ไม่ลุยน้ำให้รอดพ้นปลอดภัย แต่ถ้าหากล้องทรหดไม่กลัวน้ำก็ตรงไป BIG Camera ทุกสาขาเรามีไว้บริการพร้อมสรรพ

          ส่วนใครอยากได้เจ้า OM-D ไปลุยถ่ายภาพก็ต้องจองไว้ก่อน ช่วงสิ้นเดือนเมษายนนี้มาแน่นอน คุณภาพคับแก้วในราคาสมเหตุสมผลไม่ธรรมดาเลยสำหรับตลาดกล้อง Mirrorless ปีนี้ ระอุรับลมร้อนแน่ๆ

          กลับมาเรื่องการสาธิตอีกนิดที่วันนั้นบรรยากาศเป็นกันเองมากๆ แต่ความรู้ ความเข้าใจที่ได้รับกลับไปนั้นมหาศาลจริงๆ ต้องขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความสนใจตอบรับกันหนาแน่น จากความร่วมมือจัดงานของทาง BIG Camera และ OLYMPUS หวังว่าทุกท่านคงมีความสุขจากสิ่งที่เราตั้งใจมอบให้ โอกาสหน้าต้องมีความรู้ดีๆอย่างนี้อีกแน่นอนคอยติดตามรายละเอียดทางสื่อต่างๆให้ดี เพราะเราคือ “ศูนย์รวมกล้องดิจิตอล ที่มีความสุขให้เลือกมากที่สุด”

Back to top