318 ขั้น สู่ยอดภูเขาทอง : EOS 6D อีกก้าวของ Canon

By - April 01, 2013 1930

หลากมิติ Canon EOS 6D, EF24-105mm F4L, F5.6, 1/60s, ISO100, AWB, Focal Length 73mm, Spot Metering

"กล้อง Full Frame ที่ว่าเบาที่สุดในโลก

กับการก้าวขึ้นไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ

ณ ยอดบรมบรรพตเจดีย์ภูเขาทอง

สถานที่ที่ถือว่าเป็นสะดือกรุงเทพฯในวันท้องฟ้าสดใส"

Canon เปิดตัวกล้องรุ่นใหม่เพื่อลดช่องว่างระหว่างกล้อง Full Frame (EOS 5DMkIII) กับกล้อง APS-C (EOS 7D) ในแบรนด์เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับนักถ่ายภาพที่กำลังมองหากล้องระดับมืออาชีพในขนาดกะทัดรัดกว่าเดิมด้วยน้ำหนักที่พกพาง่าย แต่ยังคงใช้เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด Full Frame (35.8x23.9มม.)ให้คุณภาพความละเอียดระดับ 20.2 ล้านพิกเซล ที่พิเศษทันสมัยอย่างแรง นั่นคือการจัดระบบ Wi-Fi และระบบ GPS มาให้เรียบร้อยภายในตัวไม่ต้องหาซื้ออุปกรณ์ใดมาประกอบเพิ่มเติมเพียงแค่มีอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ อาทิ สมาร์ทโฟน ก็ช่วยให้นิยามการถ่ายภาพของคุณเปลี่ยนไปรวมถึงการแบ่งปันภาพผ่านโซเชียลมีเดีย (Social Media)ความสุขของคนยุคใหม่
Canon EOS 6D กล้องที่มีหน้าตาบึกบึนสมสัดส่วนจับกริปเข้าไปเต็มมือเต็มไม้เมื่อประกอบเข้ากับเลนส์โปรช่วง 24-105 mm F4L จึงให้สมดุลที่เหมาะมือมาก โดยยังคงปุ่ม และแป้นควบคุมสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ไว้อย่างครบถ้วน แต่พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นหลายส่วน ตั้งแต่จอ Clear View LCD ที่ใหญ่โดดเด่นมองเห็นเต็มตาด้วยขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียดชัด 1.02 ล้านจุดให้ความใส คมชัดสูงแม้จะใช้ในสภาพแสงจ้ากลางแดด(ปรับความสว่างได้หลายระดับ)ส่วนการเปิดระบบย้ายไปอยู่ที่ฐานแป้นโหมดด้านซ้ายเหมือนรุ่นพี่ (EOS 5DMkIII) อันเป็นรูปลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ สำหรับปุ่มปรับต่างๆด้านหลังยังคงเรียงตัวเป็นระเบียบตามหลักสรีระที่เน้นใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้เป็นกลไกหลักในการควบคุมโดยไม่ต้องละสายตาจากช่องมองภาพ(View Finder)แม้จะใช้การมองภาพแบบ Live View ผ่านจอ LCD ก็ยังคงให้ความคล่องตัวได้ ถัดไปเป็นจอแสดงผลเล็กด้านบนที่แสดงรายละเอียดการปรับตั้งค่าหลักของกล้องพร้อมปุ่มปรับตั้งค่าอีก 5 ปุ่ม คือปุ่ม AF, Drive, ISO, ระบบวัดแสง และปุ่มเปิดแสงไฟให้สว่างสำหรับมองจอแสดงผลนี้ในที่มืด ใกล้ๆกันด้านหน้าเป็นวงแหวนปรับค่า คู่กับปุ่มกดชัตเตอร์

Canon EOS 6D มีกะโหลกกล้องที่ดูคมเป็นสันมีเส้นสายดุดันขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่มีแฟลชในตัว (Pop-up) มาให้ต้องใช้แฟลชภายนอกมาต่อเข้ากับฐานเสียบแฟลช (Hotshoe) ที่รองรับระบบ E-TTL II รุ่นใหม่อย่าง Speedlite 600EX/600EX RT หลังกะโหลกเป็นช่องมองภาพที่สามารถมองเห็นภาพจริงได้ 97% เมื่อถ่ายภาพออกมาจึงจะเห็นสัดส่วนภาพเพิ่มขึ้นอีก3% ดังนั้นควรใช้ให้เกิดความชำนาญเพื่อเว้นระยะพื้นที่ให้เหมาะสม ข้างขวาของช่องมองภาพจะเป็นปุ่มปรับการมองภาพให้เป็นแบบภาพจริงผ่านจอแสดงผล (LiveView)ของภาพนิ่ง และภาพวิดีโอที่ใช้สะดวกมาก คล่องตัวเป็นอย่างดี ย้อนกลับไปดูด้านหน้าในส่วนของMountเป็นโลหะแข็งแรง ซึ่งไม่รองรับเลนส์ EF-S และ EF-M แนะนำว่าอย่าฝืนนำมาใส่เพราะเลนส์จะเกิดความความเสียหายได้ ด้านซ้ายจะมีปุ่มเล็กๆสำหรับให้นักถ่ายภาพเช็คช่วงความชัดที่มักเรียกสั้นๆกันว่าเช็ค Depth แม้จะตรวจได้จากภาพทันที แต่ก็ยังมีความจำเป็นสำหรับมืออาชีพอยู่เพื่อความรวดเร็ว และตรวจสอบทันที

F5.6, 1/30s, ISO100, AWB, Focal Length 84mm, Spot Metering

F8, 1/400s, ISO100, AWB, Focal Length 24mm, Spot Metering

Canon EOS 6D

ใช้ตัวประมวลผลเดียวกับรุ่นใหญ่คือ DIGIC5+ จึงไม่แปลกใจที่จะอ่านข้อมูลความละเอียดสูงได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำถ่ายทอดรายละเอียดตลอดจนโทนสีที่ลึกสมจริง มีระบบขับเคลื่อนการโฟกัสอัตโนมัติ11จุดพร้อมระบบวัดแสงแบ่งพื้นที่ 63 โซน ได้แก่ Evaluative, Center-weighted, Partial และSpot เรียกว่าวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำทันใจแม้ในสถานการณ์ที่ยากแก่การประมวลผล อาทิในสภาพย้อนแสง หรือในภาพมีความเปรียบต่างแสงสูง ซึ่งทางCanonสร้างโหมดให้เลือกใช้ในเมนู เรียกว่า ALO(Auto Lighting Optimizer)โดยปรับระดับให้ได้ค่าที่พอใจสำหรับนักถ่ายภาพแต่ละท่านได้เพื่อช่วยให้การถ่ายภาพเป็นไปอย่างง่ายดาย ราบรื่น

F4, 1/400s, ISO100, AWB, Focal Length 95mm, Spot Metering

F8, 1/250s, ISO100, AWB, Focal Length 24mm, Spot Metering

เริ่มปรับตัวเมมโมรี่การ์ดให้เป็น SD Card เพื่อรองรับกับกล้องรุ่นอื่นๆที่ส่วนใหญ่ใช้แบบนี้กันเป็นหลักด้วยความเร็วในการเขียนอ่านข้อมูลไม่เป็นรองสื่อบันทึกข้อมูลแบบ CF Card แม้จะมีเพียงSlotเดียวแต่ก็รองรับการ์ดที่มีความเร็วระดับ UHS-I(95MB/S) อีกหนึ่งการพัฒนาเป็นการรองรับการถ่ายภาพซ้อนได้สูงสุด 2-9 ภาพต่อครั้ง ซึ่งเมื่อเข้าไปเลือกใช้ในเมนูแล้วสามารถถ่ายต่อเนื่องไปได้เรื่อยๆจนกว่าจะกลับเข้าไปยกเลิก แฟนCanonคงถูกใจที่สามารถสร้างสรรค์ภาพได้หลากหลายขึ้นมากกว่าเดิม นอกจากนั้นไม่พอยังสามารถเข้าไปปรับไฟล์ภาพต่างๆได้ด้วยซอฟท์แวร์ภายในตัว และที่เยี่ยมยอดถูกใจผู้ที่ไม่อยากไปยุ่งกับคอมพิวเตอร์ แต่อยากบันทึกภาพเป็น RAW ไว้เพราะหลายคนบอกว่าถ่ายภาพด้วยไฟล์แบบนั้นแล้วดีจะให้รายละเอียดที่ Jpeg ให้ไม่ได้ นี่อาจเป็นเทรนด์ใหม่ของกล้องที่สามารถแปลงไฟล์ได้เองง่ายๆแล้วส่งภาพต่อให้เพื่อนได้ทันทีไม่ต้องทำเฉพาะในคอมพิวเตอร์ที่เป็นเรื่องไกลตัวของผู้ไม่ชอบปรับแต่งด้วยโปรแกรมตกแต่งภาพ เท่าที่ลองปรับความคมชัด ปรับความสดใสของสีสัน ปรับไวท์บาลานซ์ นั้นให้ผลลัพธ์ที่ดีแม้จะไม่ละเอียดได้ดั่งใจเหมือนที่เล่นประจำ แต่นับเป็นการเริ่มต้น และเป็นนิมิตหมายที่ดีในการพัฒนาให้ละเอียดมากขึ้นต่อไปเร็วๆนี้เชื่อได้เลยว่าการพัฒนาซอฟท์แวร์ในตัวกล้อง เพื่อแข่งขันกับโทรศัพท์ไม่หยุดเท่านี้แน่นอนเพราะสุดท้ายการบันทึกภาพก็ยังคงเป็นหน้าที่ของกล้องถ่ายภาพ

ใช้เทคนิคการถ่ายภาพซ้อน 2 ครั้ง โดยปรับโฟกัสไปที่นอกระยะโฟกัสในภาพแรก และปรับให้คมชัดในภาพที่สอง ผลคือได้ความฟุ้งของแสงด้านหลังเป็นโบเก้อารมณ์ที่เหมือนสวรรค์มาโปรดให้ผู้ที่เข้ามาอยู่ในร่มกาสาวพัสก์เกิดความสุขสงบในธรรมะแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

สัดส่วนภาพนอกจาก 3:2 ที่คุ้นเคยยังมีสัดส่วนอีก 3 แบบ คือ 4:3, 16:9 และ1:1 แต่การใช้งานต้องตั้งในเมนูแล้วเปิดใช้ในระบบ LiveView ซึ่งก็สะดวกพอสมควรแม้จะขัดใจบางท่านที่ต้องการมองผ่านช่องมองภาพ

Canon EOS 6D เลือกใช้วัสดุมาทำบอดี้ด้วย Magnesium Alloy ที่เบา มีความแข็งแรงทนทาน แต่เนื่องจากต้องมีการส่งสัญญาณ Wi-Fi ออกนอกตัวกล้องจึงจำเป็นที่ส่วนด้านบนต้องใช้ Poly-carbonate มาเป็นวัสดุปล่อยให้สัญญาณผ่านเข้าออกได้สะดวก ช่วยให้พิกัดเส้นรุ้งเส้นแวงตำแหน่งการถ่ายภาพปรากฎขึ้นในไฟล์ข้อมูล จากข้อมูลของดาวเทียมเพียงเปิดระบบการทำงานของ GPS สามารถเปิดดูจาก Google Map สำหรับการแชร์ข้อมูลผ่านสังคมออนไลน์ทำได้ทั้งระบบ iOSและ Android ที่เกริ่นไว้ในตอนต้นว่าสามารถควบคุมการถ่ายภาพผ่านสมาร์ทโฟนได้ด้วย EOS Remote App. ช่วยให้มองเห็นภาพแบบ Real Time หรือจะส่งภาพ โอนภาพ ให้เพื่อนทาง Facebook, Youtube ก็ได้ทันที ยิ่งไปกว่านั้นถ้าต้องการพิมพ์ภาพด่วนแจกเพื่อนๆ ก็ส่งข้อมูลเข้าตัวเครื่องพิมพ์ที่รองรับเทคโนโลยี Wi-Fi โดยไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์ หรือถอดเมมโมรี่การ์ดออกจากตัวบอดี้...เทคโนโลยีทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น เร็วขึ้นจริงๆ

Canon EOS 6D สามารถควบคุมการทำงานหลักผ่านปุ่ม Q ช่วยให้เปลี่ยนค่าต่างๆได้รวดเร็ว เลื่อนปรับเปลี่ยนบรรทัดโดยไม่ต้องเลื่อนหน้าจอหลายหน้า แม้การบันทึกภาพวิดีโอในระบบ Full HD 30 เฟรมต่อวินาที ก็สามารถควบคุมเปลี่ยนการโฟกัสได้นุ่มนวลราบรื่น และด้วยน้ำหนักที่ไม่เบาเกินไป (770กรัม) จึงทำให้การแพน หรือเคลื่อนกล้องไม่กระตุกแม้จะใช้มือเปล่าควบคุม จากข้อเด่นต่างๆ การเดินขึ้นยอดภูเขาทองครั้งนี้จึงเป็นเรื่องของความสนุก และความสุขที่ได้ขึ้นมานมัสการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน พร้อมชมทัศนียภาพของกรุงเทพฯ เมืองหลวงที่แม้คราคล้ำไปด้วยการจราจรที่วุ่นวาย แต่ก็ปะปนไปด้วยเสน่ห์ของผู้คน และสถานที่ที่มีเรื่องเล่าขานมายาวนานจนเป็นจุดสำคัญแห่งหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกปักหมุดไว้ว่าต้องมาเยือนสักครั้งให้ได้ ส่วนด้านในของเจดีย์แม้จะมีสภาพแสงน้อย เปิด ISO 800 ก็มองไม่เห็นสัญญานรบกวน (Noise) ให้กังวลใจเรียกว่าดันความไวแสงสูงเพื่อให้ได้ความคมชัดก็ไม่มีผลเสียต่อไฟล์ภาพ
แม้วันนี้แสงแดดจะเป็นใจอย่างแรง แต่เมฆหายากเหลือเกินกว่าจะลอยมา แต่เมื่อโอกาสผ่านมามีหรือจะพลาดการกดชัตเตอร์บันทึกเอาไว้ด้วย Canon EOS 6D เพื่อนคู่ใจประจำทริป ซึ่งแสงแดดแรงขนาดนี้ควรหาฟิลเตอร์ Ultraviolet มาป้องกันแสงแดด ฝุ่นละออง หรือ C-PL มาใช้ช่วยตัดแสงสะท้อนทำให้ภาพใสกระจ่างไม่มีอาการคล้ายฝ้าขาวๆมากั้นผิวด้านหน้า อีกอย่างที่แนะนำพกไว้ติดกระเป๋ากล้อง คืออุปกรณ์ทำความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นลูกยางเป่าลม Lenspen ผ้าไมโครไฟเบอร์ แต่อาจเป็นขนาดย่อมๆพกพาสะดวก ด้านบนยอดภูเขาทองมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ถึง 360 องศา กล้องท่านใดที่ถ่ายภาพพาโนรามาได้ก็จะสนุกได้ภาพสวยงามกลับบ้าน
แล้วกลับมาพบกันใหม่ในครั้งต่อไปกับการ Review ของ BIG Camera ที่จะพาคุณไปสัมผัสกับการถ่ายภาพในหลากหลายแนวอย่างสร้างสรรค์ โดยไม่จำกัดรูปแบบของกล้องถ่ายภาพ ขอเพียงมีใจรักการถ่ายภาพเราก็พร้อมมอบความสุขให้คุณ วันนี้ขอตัวไปส่งภาพสวยๆ แชร์ให้เพื่อนชมทาง BIG CAMERACLUB ก่อน...สวัสดีครับ