ช่วงนี้ฝนมาพระอาทิตย์จึงมักหลบอยู่หลังก้อนเมฆ
การออกไปถ่ายภาพธรรมชาติของหลายท่านอาจต้องยกเลิก
วิกฤตพร้อมพลิกเป็นโอกาสด้วยการถ่ายภาพสิ่งใกล้ตัว
พื้นที่โล่งระหว่างทางกลับบ้านอาจกลายเป็นภาพภูมิทัศน์สุดแจ่ม
 

Canon EOS 5D MkII, Tamron SP 70-200mm F2.8 Di VC USD,F8, 1/400s, ISO200, Manual WB, Focal Length167mm 

      SP 70-200mm F2.8 Di VC USD ถูกคว้าออกจากกระเป๋าเป้ KATA ขณะรถจอดนิ่งสนิทริมฟุตบาธที่มีน้ำเจิ่งนองหลังฝนเพิ่งหยุดตกไป แสงบนท้องฟ้าชวนให้ต้องหยุดเดินทางชั่วคราวเพื่อเก็บสีสันอันตระการตาก่อนตะวันจะลับขอบฟ้า ดังนั้นชั่วโมงทองจึงมีเพียงแค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่จะบันทึกแสงสีทอง กับท้องฟ้าผสมเกลียวเมฆ อย่างที่ทราบแล้วว่าเลนส์ที่ใช้ครั้งนี้จะเริ่มต้นที่ช่วงแคบสักหน่อยดังนั้นการจะเก็บภาพในมุมกว้างเลิกคิดไปได้เลยเพราะถูกบังคับด้วยองศาการรับภาพเริ่มต้นประมาณ 12 องศาที่ช่วงเลนส์ 70 มม.อีกข้อจำกัดหนึ่งคือไม่มีขาตั้งกล้องซึ่งก็ไม่เดือดร้อนเนื่องจากเลนส์รุ่นนี้มีระบบ Vibration Compensation (VC) สามารถถ่ายภาพด้วยมือเปล่าได้ด้วยความเร็วชัตเตอร์ต่ำกว่าปกติถึง 4 สตอปตามทฤษฎี 1/ ทางยาวโฟกัสของเลนส์ ทราบข้อจำกัดกันแล้วลองไปดูบรรยากาศรอบๆว่าจะเก็บรายละเอียดอะไรเข้ามาในภาพได้บ้าง บริเวณพื้นที่โล่งมีต้นไม้ยืนต้นตายตั้งแต่คราวน้ำท่วมกรุงล้อมรอบด้วยต้นหญ้า ถัดออกไปเป็นดงกล้วยในทิศที่ดวงอาทิตย์กำลังหย่อนตัวลงไป ส่วนซ้าย และขวาจะเป็นบ้านพักอาศัย กับถนนที่ไม่ถูกนำเข้ามาใส่ในภาพ

      SP 70-200mm F2.8 Di VC USD ทำให้คิดถึงเทคนิคการถ่ายภาพเงามืด (Silhouette) โดยเริ่มวัดแสงที่ขอบฟ้าบริเวณฉากหลังสีส้มที่สว่างใกล้เคียงค่าสีเทากลางเพื่อให้แสงบริเวณนั้นสว่างพอดี ส่วนบริเวณที่สว่างน้อยกว่าจะถูกกดให้เข้มขึ้นโดยอัตโนมัติ ดังนั้นกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ ใบต้นกล้วย ดอกหญ้า จะเกิดเส้นสายของโครงสร้างสีดำทึบแสงอันสวยงามตัดกับสีสันสวยงามบนท้องฟ้าซึ่งแต่ละนาทีมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆเสียงชัตเตอร์จึงดังขึ้นเป็นระยะสลับกับเสียงมอเตอร์โฟกัสความเร็วสูงที่เงียบมากจนเกือบจะไม่ได้ยิน ต้องยอมรับเลยว่าระบบ USD (Ultrasonic Silent Drive Motor) มีประสิทธิภาพระดับไม่ธรรมดาไม่แพ้เลนส์เกรดโปรของแบรนด์กล้องแน่นอน หลังจากถือเลนส์น้ำหนัก 1470 กรัมพร้อมกล้องระยะเวลาหนึ่งเริ่มล้าจึงลองลดตัวลงจากถ่ายภาพมุมปกติเป็นถ่ายภาพมุมต่ำจึงทำให้เห็นความงามอีกรูปแบบหนึ่งของแสงที่ส่องเลียดยอดหญ้าลงมาจึงลองบันทึกภาพแนวตั้งบ้าง แนวนอนบ้าง โดยให้แสงส่องย้อนเข้าหน้าเลนส์ลอด Hood (กรวยบังแสง) ทรงกลีบดอกไม้เล็กน้อยเพื่อสร้างอารมณ์ไออุ่นละมุนจากแสงแดดยามโพล้เพล้

      SP 70-200mm F2.8 Di VC USD ถูกเลือกรูรับแสงตั้งแต่กว้างสุดที่ F2.8 จนถึงประมาณ F8 ด้วยข้อจำกัดของแสง แต่ทำให้ทราบถึงความคมชัดเมื่อเปิดที่กว้างสุดจะทำให้ฉากหลังละลายเกิดโบเก้ที่นุ่มเนียนไล่โทนสีสม่ำเสมอ ตลอดจนมีคอนทราสต์จากการย้อนแสงที่จัดว่าให้รายละเอียดภาพที่ดีตั้งแต่กลางภาพแม้ขอบจะลดลง ซึ่งก็เป็นธรรมชาติที่ยอมรับได้ของเลนส์ทุกตัว เพราะหากมันชัดเกินไปก็อาจดูกวนสายตาก็เป็นได้ เพียงระยะเวลาครึ่งชั่วโมงที่มีโอกาสสัมผัสก็สามารถรับรู้ถึงความเป็นเลนส์คุณภาพเกรดโปรที่ทางแบรนด์แทมรอนภูมิใจนำเสนอให้นักถ่ายภาพได้เลือกเป็นเลนส์เทเลโฟโต้คู่ใจ ในราคาแสนคุ้มค่ากับคุณสมบัติที่มีอัดแน่นในตัว นอกจากนั้นยังได้เพิ่มมุมมองว่าการถ่ายภาพภูมิทัศน์ หรือธรรมชาตินั้นนอกจากเลนส์ไวด์ที่คุ้นเคยแล้วยังเลือกใช้เลนส์เทเลโฟโต้มาเก็บความงามเฉพาะส่วนนำเสนออีกหนึ่งรูปแบบได้ด้วย ตอนนี้ฟ้ามืดสนิท...เสาไฟฟ้าตลอดถนนเริ่มทำงานแทนแสงอาทิตย์ถึงเวลาเก็บอุปกรณ์กลับบ้านพร้อมความคิดสร้างสรรค์ดีๆที่จะนำไปแบ่งปันมอบต่อให้กับนักถ่ายภาพที่ยังไม่มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพเช่นนี้  แล้วกลับมาพบเรื่องราวการถ่ายภาพครั้งต่อได้ใหม่กับอุปกรณ์ที่จะช่วยต่อยอดความคิดของเราอย่างไม่มีที่สิ้นสุด...สวัสดีครับ

Special Thanks : East Enterprises Co.,Ltd.

 

Specifications :

- ทางยาวโฟกัส .......70-200 มม.(เทียบกับกล้อง35มม.)
- ชิ้นเลนส์ .................23 ชิ้น แบ่งเป็น 17กลุ่ม
- ชิ้นเลนส์พิเศษ ........LD 4 ชิ้น, XLD 1ชิ้น
- รูรับแสงกว้างสุด ....F/2.8
- รูรับแสงแคบสุด ......F/32
- ระยะโฟกัสใกล้สุด ..1.3 เมตร
- ไดอะแฟรม ...............9 ใบ
- ขนาดฟิลเตอร์ ..........77 มม.
- น้ำหนัก ....................1470 กรัม