Canon EOS-5D MarkIII...New !!!

          

 

Canon เริ่มต้นสายพันธุ์ EOS ตั้งแต่ปี 1987 โดยได้รับการจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อก้าวสู่ยุคดิจิตอล กับกล้องที่นิยมในหมู่ผู้รักการถ่ายภาพด้วยราคาที่สัมผัสได้

อย่างรุ่น EOS 300D เปิดตลาดดิจิตอลยุคใหม่

จวบจนมาถึงการเปิดตัวกล้อง FULL-FRAME รุ่นล่าสุด ในวันที่ 20 มีนาคมศกนี้

 

          Canon เตรียมเปิดตัวกล้อง EOS 5D MarkIII กล้องชนิด Full-Frame สำหรับมืออาชีพรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพการทำงานสมบุกสมบัน ไม่แพ้รุ่นใหญ่อย่าง EOS1DX ด้วยการปรับปรุงฟังก์ชั่นการทำงาน และการประมวลผลให้รองรับระบบการใช้งานของเลนส์ที่หลากหลายประสิทธิภาพให้ใช้งานได้ใกล้เคียงกันยิ่งขึ้น รองรับการทำงานในรูปแบบไร้สาย (Wireless) ทั้งเรื่องของการถ่ายโอนข้อมูล และการสั่งงานแฟลชด้วยระบบคลื่นวิทยุ

          ลองไปศึกษารายละเอียดเตรียมความพร้อมสำหรับการถ่ายทอดจินตนาการของคุณให้โลดแล่นไปพร้อมกับกล้องที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัยอย่าง EOS 5D MarkIII

 


MAGNESIUM ALLOY สุดยอดความแข็งแกร่ง
ด้วยการใช้งานที่สมบุกสมบันของนักถ่ายภาพระดับมืออาชีพทีมออกแบบจึงนำวัสดุสุดแกร่งอย่าง Magnesium Alloy ขึ้นรูปทั้งตัวจึงสบายใจได้เมื่อนำไปลุยในสภาวะต่างๆ

 


เซ็นเซอร์ 22.3 ล้านพิกเซล
ความละเอียดสูงสุดที่ 22.3 ล้านพิกเซล ถ่ายทอดภาพคุณภาพยอดเยี่ยม เป็นเซ็นเซอร์ขนาด FULL-FRAME CMOS (36x24มม.) เทคโนโลยี ที่สร้าง photodiode ใหม่ gapless microlens ช่วยขจัดสัญญานรบกวนใน CMOS จึงเก็บข้อมูลได้ดีแม้กระทั่งการตั้งค่า ISO สูง หรือเปิดชัตเตอร์เป็นระยะเวลานาน ดังนั้นมุมมองการถ่ายภาพของคุณจะไม่สูญเสีย

 


น่วยประมวลผลรุ่นใหม่ DIGIC 5+
เมื่อมีเซ็นเซอร์ขนาดใหม่ที่ความละเอียดสูง การประมวลผลของกล้องที่เปรียบเสมือนสมองกลคอยคำนวณสิ่งต่างๆ ก็ต้องคิดทันกัน ฉลาดทันกันเพื่อให้ภาพปรากฏออกมารวดเร็ว แม่นยำ ถูกต้องช่วยให้ภาพถ่ายมีคุณภาพสูง ทาง Canon จึงพัฒนา DIGIC5+ ออกมาพร้อมกัน

 


SHUTTER RATE TO 150,000 FRAMES
ระบบชัตเตอร์ แบบโลหะถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานได้มากถึง 150,000 ครั้ง และสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 6 ภาพต่อวินาที ด้วยความละเอียดสูงสุด

 

 





 





 

          เป็นระบบโฟกัสเดียวกับที่ใช้ในกล้อง EOS 1DX ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ซึ่งในสภาพแสงต่ำจะเป็นปัญหาของการโฟกัสเมื่อเลือกหน้ากล้องตามที่ต้องการไม่ได้ ด้วยการเพิ่มระบบโฟกัสภาพแบบใหม่ที่มีมากถึง 61 จุด แบ่งเป็นส่วนกลาง 21 จุด โดยมี5จุดตรงกลางที่ไวต่อการค้นหาโฟกัส ในเมนูจะสามารถเลือกตำแหน่งการโฟกัสได้ จะช่วยให้การทำงานมีขีดจำกัดลดลงไป รองรับกับเลนส์กลุ่มที่มีค่า F/4 และ F/5.6 โดยช่วยเพิ่มความสามารถในการติดตามวัตถุอีกด้วย

 

          จอภาพแสดงผลมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 3.2 นิ้ว ความละเอียดสูง 1.04 ล้านจุด เรียกว่าถ่ายทอดโทนสีได้คมชัด สมจริง เหมาะสมทั้งการใช้สำหรับถ่ายภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวในการมองภาพผ่านโหมด Live View

          ซึ่งจอภาพนี้ก็เป็นการดึงเทคโนโลยีจากรุ่น EOS1DX ลงมาให้ได้ใช้กันแม้ยังเป็นจอที่ติดตั้งตายตัวแต่องศาการมองภาพกว้างขึ้น

 

 

 

ข้อมูลจำเพาะเบื้องต้น EOS 5D MARK III

Image sensor : 22.3 mega-pixel 36 x 24mm CMOS sensor
Imaging processor : DIGIC 5+
ISO speeds : 100-25600 (expandable to L:50, H:51200, H2: 102400)
ระบบโฟกัสอัตโนมัติ : AF system: 61-point high density reticular AF system
max 41 cross-type sensors
Central 5 points : Diagonal cross-type sensors
ความเร็วการถ่ายต่อเนื่อง : 6 ภาพ ต่อวินาที
Release time lag : approx. 59 ms
ช่องมองภาพ : Approx 100% coverage, 0.71x magnification, 21mm eyepoint
จอ LCD : ขนาด 3.2 นิ้ว 1.04 ล้านพิกเซล Clear View LCD II
อายุการใช้งานของชัตเตอร์ : 150,000 ครั้ง
สื่อบันทึกความจำ : แบบDual Slots (CF และ SD)
แบตเตอรี่ : LP-E6
มิติ : 152x 116.4 x 76.4 มม.(กว้าง x ยาว x สูง)
น้ำหนัก : 860 กรัม (เฉพาะ body)

 

          นอกจากประสิทธิภาพที่ทาง Canon EOS-5D MarkIII ใส่มาให้แบบจัดหนักแล้วยังมีอุปกรณ์เสริมหลายรายการที่เตรียมออกมาให้นักถ่ายภาพได้ใช้งานคู่กัน อาทิแฟลชรุ่นใหม่ 600EX/600EX-RT, ตัวส่งสัญญาน GPS ชาว PHOTOLISTA คงต้องอดใจรอสักนิดก่อนที่จะเปิดตัวในวันที่ 20 มีนาคมนี้ และเริ่มวางจำหน่ายตามมาอีกประมาณไตรมาศที่สอง ซึ่งสามารถพบสินค้าตัวจริงได้แน่นอนที่ BIG CAMERA GALLERIA ทั้งสาขา Central World ชั้น 4 และสาขา Central Ladprao ชั้น 3 แล้วคุณจะประทับใจที่อยู่ในศูนย์รวมกล้องดิจิตอล ที่มีความสุขให้เลือกมากที่สุด

 

 

          Canon เปิดตลาดแฟลชมืออาชีพ Speedlite 600EX-RT แฟลชตัวแรกในตลาดที่มีเครื่องส่งสัญญานวิทยุแบบไร้สายติดตั้งอยู่ภายใน เหมาะสำหรับช่างภาพแนว Wedding และช่างภาพสายงานข่าว โดยสามารถใช้ได้กับกล้อง EOS Digital SLRs ทั้งหมด ตัว Speedlite 600EX-RT มีค่าไกด์นัมเบอร์สูงขึ้นจากเดิมเป็น GN.60 ช่วงซูมหัวแฟลชตั้งแต่ 20 มม.ไป 200 มม. จอแสดงผลด้านหลังใหญ่ขึ้น เมนูการใช้งานง่าย สะดวกต่อการอ่านค่าต่างๆ

          พร้อมกันนี้ยังแนะนำ Speedlite Transmitter เครื่องส่งสัญญาณ รุ่น ST-E3-RT เพื่อสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีแฟลชไร้สาย ตัวใหม่ ST-E3-RT สามารถควบคุมแฟลชแยกเป็นกลุ่มได้มากถึง 5 กลุ่ม ควบคุมไกลถึง 30 เมตร แต่ต้องสั่งงานผ่านกล้อง EOS-1 D X และ EOS 5D MkIII

 

เครื่องส่งสัญญาน GPS รุ่น GP-E2

เครื่องส่งสัญญานข้อมูลไร้สายรุ่น WFT-E7

 

Battery Grip รุ่นBG-E11

Back to top