Review Panasonic Lumix GM5 : แสงแห่งความสุข...สนุก...รื่นเริง

By - November 28, 2014 2468

Panasonic Lumix GM5, Lumix G Vario 35-100mm f4-5.6 ASPH, F5.4, 1/800s, ISO 200, AWB, Focal Length 64mm

Panasonicมุ่งมั่นพัฒนากล้องกลุ่มถอดเปลี่ยนเลนส์ขนาดเล็ก
เพื่อให้นักถ่ายภาพสามารถพกพาไปใช้ได้สะดวกสบาย
แม้จะย่อส่วนกล้องแต่ฟังก์ชั่นการทำงานระดับมืออาชีพยังคงอยู่
คุณจึงมั่นใจได้เลยว่าจะได้ภาพที่สวยงามกลับมาทุกครั้ง

Panasonic ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับกล้องซีรีย์ GM ที่โดดเด่นเรื่องขนาดและความแข็งแรงจนเป็นที่ยอมรับในกลุ่มนักถ่ายภาพทั่วโลก มาวันนี้พานาโซนิคกลับมาสานต่อความเป็นเลิศทางด้านประสิทธิภาพของระบบตลอดจนฟังก์ชั่นการใช้งานให้ล้ำสมัยเพิ่มขึ้นจากรุ่น GM1 ให้สามารถรองรับงานระดับมืออาชีพได้กว้างกว่าเดิมเพื่อเก็บแสงแห่งความสุขได้ทุกรู้แบบทั้งแสงจากธรรมชาติหรือแสงจากไฟแฟลชพร้อมออกเลนส์ช่วงทางยาวโฟกัสใหม่ๆ เพื่อรองรับกับลักษณะการถ่ายภาพที่ต้องการความคล่องตัวสูง ไม่เกะกะ แต่มีเงื่อนไขว่าต้องเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพจะไม่มีการประนีประนอมในเรื่องนี้เด็ดขาด

Lumix GM5 กล้องคอมแพคถอดเปลี่ยนเลนส์ได้รุ่นใหม่อาศัยพื้นฐานการออกแบบโครงสร้างหลักจากกล้องรุ่น GM1 ที่ใช้วัสดุแม็กนีเซียมอัลลอยด์มีความแข็งแกร่ง ทว่าน้ำหนักเบาอย่างเหลือเชื่อเพื่อให้ความมั่นใจว่าแม้จะตัวเล็กแต่ไม่บอบบางสามารถหยิบจับได้กระชับมือไร้กังวล โดยในรุ่นนี้เพิ่มสีสันภายนอกให้เลือกใช้แนวแฟชั่นทีเดียว อาทิ สีแดง สีเขียว สาวๆ ผู้มีใจรักการถ่ายภาพและแฟชั่นคงโดนใจไม่น้อย ก่อนจะไปพิสูจน์ความสามารถตัวจริงกันลองไปดูรายละเอียดส่วนต่างๆ ว่าจะมีอะไรใหม่ที่ควรค่ากับการเป็นกล้องที่เล็กที่สุดในโลกบ้าง...

Lumix GM5 ออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกให้เรียบหรูสไตล์คลาสสิก โดดเด่นด้วยช่องมองภาพแบบ LVF(Live Viewfinder) ความละเอียด 1,166,000 พิกเซลพร้อม Eye Sensor สามารถแสดงผลได้ 100% แทนตำแหน่งที่เป็นแฟลชป๊อปอัพเดิมในรุ่น GM1 ดังนั้นด้านบนถัดจากช่องมองจึงมีฐานเสียบแฟลช (Hot-shoe) สำหรับเชื่อมต่อแฟลชแยกรุ่น DMW-FL-70 มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในกล่อง โดยแฟลชรุ่นนี้มีความแรงที่ไกด์นัมเบอร์ GN.7/ ISO100 อาศัยพลังงานจากตัวกล้องดังนั้นหมดกังวลเรื่องน้ำหนักของแบตเตอรี่ไปได้เลยด้วยเหตุนี้กล้องรุ่นนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นกล้องมิลเลอร์เลสที่มีช่องมองภาพที่เล็กที่สุดในโลกตอนนี้ นักถ่ายภาพที่นิยมการเล็งภาพผ่านช่องมองภาพก็มีทางเลือกมากขึ้น และสำหรับผู้ที่ถนัดการมองผ่านจอแสดงผล LCD ทางพานาโซนิคก็จัดมาให้ในขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 921,000 จุด แบบTouchscreen จึงสนองการควบคุมระบบการโฟกัสภาพแบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ 23 จุด (แบบContrast AF) ได้อย่างฉับไว จากเซ็นเซอร์ Live MOS รูปแบบ Micro Four Thirds ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับระบบประมวลผล Venus Engine ทำให้ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องทำได้เร็วถึง 5.8 ภาพ/วินาที ที่ความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 1/16000 วินาทีนับว่าเป็นความเร็วในการเปิดรับแสงที่เร็วที่สุดแม้แต่กล้อง DSLR ยังต้องแอบค้อนเพราะส่วนใหญ่จะทำได้ประมาณ1/4000 วินาทีเท่านั้น หรือในรุ่นใหญ่ทำได้สุดสุดที่ 1/8000 วินาที ทำให้นักถ่ายภาพสามารถเลือกใช้เทคนิคได้มากขึ้น อาทิ การตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์สูงร่วมกับการเปิดค่ารูรับแสงกว้างๆได้แม้อยู่ในสภาพแสงแดดจ้าๆ ร่วมกับเลนส์ไวแสงเพื่อให้ได้ภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ

Lumix GM5 วางตำแหน่งควบคุมเข้าใจง่ายเป็นระเบียบแยกเป็น3ส่วน คือส่วนบน จะมีสวิทช์เปิด-ปิดระบบทำงานและแป้นปรับโหมดถ่ายภาพกับแป้นปรับระบบโฟกัสภาพ ส่วนที่สองเป็นปุ่มควบคุมใกล้ช่องมองภาพซ้ายสุดจะควบคุมการปรับฟังก์ชั่นของจอแสดงผล ถัดไปเป็นปุ่มเลือกเข้าระบบ Wi-Fi เชื่อมต่อ Application ซึ่งทั้งสองปุ่มนี่สามารถเลือกปรับตั้งค่าได้อิสระจากฟังก์ชั่นที่คุณใช้งานบ่อย ปุ่มดูภาพจะวางถัดมาก่อนจะถึงวงแหวนปรับค่าแบบมัลติฟังก์ชั่นสามารถกดลงไปได้เพื่อเปลี่ยนค่าการปรับตั้ง ในจุดนี้มักจะไม่พบในกล้องแบรนด์อื่นๆ ทำให้หลายท่านหาตำแหน่งเปลี่ยนค่าไม่เจอแต่สำหรับแฟนพันธุ์แท้ หรือผู้ที่เคยเล่นกล้องพานาโซนิคมาก่อนจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี และส่วนสุดท้ายทางขวาจะเป็นแป้นควบคุม 5 ทิศทางที่สามารถตั้งเป็นคีย์ลัดปรับค่ารับแสงได้สะดวกรวดเร็ว รวมถึงการเข้าเมนูหลักด้วย สองปุ่มด้านล่างสุดจะสำหรับสั่งลบภาพ และเลือกแสดงข้อมูลที่จะปรากฏบนจอ LCD อ้อ! อีกปุ่มที่เป็นเหมือนจุดแดงอันนี้สำหรับสั่งบันทึกไฟล์ภาพในรูปแบบวิดีโอความละเอียด Full HD 1080 60/50p ตั้งความเร็วเฟรมเรทได้สูงถึง 240 เฟรม/วินาที ช่วยให้การทำภาพ Slow Motion อันงดงาม

Lumix GM5 ให้เลนส์คิทติดกล้องมาเป็น Lumix G Vario12-32mm f3.5-5.6 ASPH. Mega OIS ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดใช้การหมุนบิดกระบอกเลนส์เป็นการเปิดระบบทำงานที่สมบูรณ์ โดยช่วงทางยาวโฟกัสเมื่อเทียบกับเซ็นเซอร์ขนาดฟูลเฟรมจะเทียบเท่ากับเลนส์ 24-64มม.จะเห็นได้ว่าทางพานาโซนิคให้ช่วงเลนส์มุมกว้างมาเป็นพิเศษทำให้เก็บภาพในที่แคบ หรือวิวทิวทัศน์ที่กว้างได้สะใจโดยที่ยังไม่ต้องจัดเลนส์มุมกว้างเพิ่มเติมทันทีอาจเพิ่มเติมเลนส์ Lumix G Vario 35-100mm f4.0-5.6 APSH. Mega OIS เทเลโฟโต้รุ่นใหม่มีน้ำหนักตัวเบาสำหรับบันทึกภาพวัตถุที่อยู่ไกลให้ขยายเหมือนอยู่ใกล้ได้ แต่นักถ่ายภาพที่ต้องการใช้เลนส์ไวแสงถ่ายภาพแบบเดินไปชิวๆ สไตล์ Street Photography ต้องมองไปที่เลนส์ LUMIX G Leica DG Summilux 15mm f/1.7 ASPH. (มีวงแหวนปรับF-stopที่เลนส์) หรือ Lumix G 14mm f2.5 II ASPH. ก็จะได้ความคล่องตัวที่มีประสิทธิภาพสูง สำหรับท่านที่ชื่นชอบเลนส์ที่ให้มุมกว้างพิเศษก็จะมี Lumix G Vario 7-14mm f/4 ASPH.คอยประจำการให้เลือกนำไปเก็บความประทับใจในทุกๆการเดินทางของคุณ

Lumix GM5 เติมเต็มจินตนาการการควบคุมกล้องจากระยะไกล หรือการไม่ต้องกดปุ่มชัตเตอร์จากตัวกล้องด้วยการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยระบบ Wi-Fi ผ่านแอพพลิเคชั่น Panasonic Image App. ฟังก์ชั่นการทำงานที่ช่วยควบคุมค่าการทำงาน อาทิจัดองค์ประกอบภาพ, ปรับค่ารูรับแสง, ความเร็วชัตเตอร์, ความไวแสง, ชดเชยแสง จากอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ (Smart Device) อาทิ แท็ปเล็ท สมาร์ทโฟน เมื่อบันทึกเสร็จก็สามารถโอนถ่ายข้อมูลภาพทั้งหมดแชร์ขึ้นสังคมออนไลน์ได้ทันทีนับว่าเป็นความล้ำสมัยของการถ่ายภาพในการวางกล้อง ยกกล้อง ซ่อนกล้องให้มีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายโดยไม่ต้องเดาภาพที่จะได้แต่สามารถกำหนดมุมได้เองเห็นภาพสดตลอดเวลารองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android โหลดได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ยิ่งตอนนี้กระแส Selfie เป็นที่นิยมการนำไปติดกับขาตั้งเดี่ยว หรือ Monopod ก็จะช่วยให้สนุกสนานยิ่งขึ้นและได้มุมกว้างเวลาถ่ายภาพหมู่

Panasonic Lumix GM5, Lumix G Leica DG Summilux 15mm f1.7 ASPH, F4.5, 1/500s, ISO 200, AWB, Mode A

Lumix GM5 ยังคงให้ความเพลิดเพลินในโหมดถ่ายภาพต่างๆตั้งแต่โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ Intelligent Automatic(iA) ที่คอยวิเคราะห์สถานการณ์ถ่ายภาพให้อัตโนมัติอย่างรวดเร็วและแม่นยำสูงช่วยนักถ่ายภาพมือใหม่ไม่กังวลว่าจะได้ภาพหรือไม่ ในโหมดถ่ายภาพ P, A, S, M ก็มีมาให้ควบคุมปรับตั้งค่าการทำงานได้เองแบบมากบ้างน้อยบ้างสามารถเลือกใช้ตามทักษะการใช้งานหรือตามความถนัด สำหรับโหมดที่ง่ายเหมือนอัตโนมัติแต่ยังพอปรับค่าได้เล็กน้อยนั่นคือ โหมด Creative Control ที่ให้ความแตกต่างของโทนสีอย่างเด่นชัดในแต่ละโทนและมีลูกเล่นซ่อนอยู่รอให้คุณหยิบขึ้นไปสร้างความสุข อาทิ Expressive, Soft Focus, Silky Monochrome, Fantasy, Star Filter ซึ่งเวลาเลือกใช้งานจะปรับชดเชยแสงเพื่อปรับความสว่างหรือความเข้มของภาพได้ นอกจากนั้นยังปรับสัดส่วนของภาพให้เป็น 1:1, 16:9, 4:3 ได้ช่วยให้จัดรูปแบบของการถ่ายภาพได้อย่างสร้างสรรค์


Leica DG Summilux 25mm f/1.4 ASPH, F1.4, 1/1300s, ISO 200, AWB, Soft Focus Effect	Leica DG Summilux 15mm f/1.7 ASPH, F2.2, 1/800s, ISO 200, AWB, Miniature Effect

Lumix GM5 ปรับค่าความไวแสงได้ตั้งแต่ ISO200-25600 สามารถขยายลงมาเป็น ISO100 ได้ นอกจากนี้ยังมีโหมดการปรับแบบ iISO ที่จะมีความสามารถวิเคราะห์ความสว่างของภาพร่วมกับความเร็วในการเคลื่อนที่ของวัตถุมาคำนวณปรับค่าความไวแสงเพื่อไม่ให้ตัวแบบเกิดความสั่นไหว พูดง่ายๆ ว่าวิเคราะห์ได้เก่งกว่า Auto ISO ปกติ สำหรับการวิเคราะห์ค่าแสงอีกส่วนคือ ระบบวัดแสงที่มีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่แบบแบ่งพื้นที่, เฉลี่ยหนักกลางภาพ และเฉพาะจุด ส่วนการวิเคราะห์ค่าสีในรูปแบบของ White Balance ก็จะมีให้ครบถ้วนแต่จะเด่นในการมีค่า Preset ให้ตั้งค่าเอง 5 แบบ หรือจะปรับค่าอุณหภูมิสีองศาเคลวินตั้งแต่ 2500-10000K เอง

Panasonic Lumix GM5, Leica DG Summilux 15 mm F1.7 ASPH, F7.1, 1/500s, ISO 200, AWB, Star Filter Effect

Panasonic Lumix GM5, Leica DG Summilux 15 mm F1.7 ASPH, F3.2, 1/400s, ISO 200, AWB, Expressive

Panasonic Lumix GM5, Leica DG Summilux 15 mm F1.7 ASPH, F11, 1/500s, ISO 200, AWB, Cross Process

Lumix GM5 มีโหมดช่วยเพิ่มรายละเอียดของภาพด้วย iDynamic เป็นการเพิ่มความสว่างในที่มืด, iResolution ช่วยเพิ่มรายละเอียดในภาพ และ HDR จะทำหน้าที่เก็บรายละเอียดทั้งในส่วนสว่างและส่วนมืดในภาพเดียวกัน ดังนั้นการถ่ายภาพในสถานการณ์ที่ยุ่งยากต่อการวัดแสง หรือยากต่อการประมวลผลตัวกล้องจะช่วยให้นักถ่ายภาพเก็บรายละเอียดได้เหมือนช่างภาพอาชีพ

Lumix GM5 ยังให้ความคล่องตัวในการถ่ายภาพวิดีโอที่ความละเอียดสูงระดับ Full HD 1080/50p พร้อมระบบการบันทึกเสียงแบบสเตอริโอ สำหรับท่านที่ต้องการใส่เอฟเฟกซ์ในภาพก็สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ซึ่งหากจับถือไม่ถนัดก็สามารถนำกริปที่ใช้ใน GM1 มาใช้ร่วมได้เลยก็จะช่วยให้คล่องตัวขึ้น โดยรวมแล้วต้องบอกว่ากล้องรุ่นนี้ใส่ความเป็นมืออาชีพเอาไว้มากมายให้เลือกใช้งานหลากหลายสถานการณ์

BIGCamera ศูนย์รวมกล้องดิจิตอล ที่มีความสุขให้เลือกมากที่สุด ขอมอบสิ่งดีๆ เสริฟถึงที่ด้วยสาระความรู้ ความสนุก สอดแทรกแง่คิดดีๆ อย่างนี้เป็นประจำทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน อยากรู้อยากสนุกกับการนำเสนอกล้องรุ่นใหม่ๆผ่านตัวหนังสือ และภาพถ่าย อย่าพลาด! ติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาความรู้ควบคู่กับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ไม่เคยหยุดนิ่งของโลกใบนี้ แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ครั้งต่อไป...สวัสดีครับ