NISSIN i60A แฟลชเล็ก...สเปคเต็ม...ควบคุมง่าย

Nikon D500, Sigma AF 105mm f/2.8 DG OS HSM Macro, f8, 1/250s, ISO100, AWB, Nissin i60A, Wireless Flash 

 

มืดไป สว่างไปเป็นความกังวลของนักถ่ายภาพที่เริ่มใช้แฟลช
หลายคนท้อจนเลิกใช้ ปล่อยให้ฮอทชูสนิมขึ้นไปเลยก็มี
แต่ถ้าลองวิ่งเข้าชนพยายามเรียนรู้ทำความเข้าใจระบบการทำงาน
คุณจะมีอาวุธสร้างสรรค์งานได้อย่างไร้ขีดจำกัด

 

Nissin...แบรนด์ผู้ผลิตแฟลชระดับโลกสัญชาติญี่ปุ่นที่ออกแบบแฟลชรุ่นใหม่ๆจนสามารถคว้าTIPA AWARDS (Technical Image Press Association) ประเภท Best Portable Flash ได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2013 จากสมาคมด้านนิตยสารเกี่ยวกับการถ่ายภาพในยุโรปที่นักถ่ายภาพให้ความเชื่อมั่นสูงจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าแฟลชแต่ละรุ่นจะได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องตามยอดการเติบโตของกล้อง Mirrorless ในประเทศไทยที่ก้าวกระโดดขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง นั่นยิ่งทำให้ยอดขายของNissinเติบโตตามไปด้วย โดยเฉพาะรุ่น i40 ที่มีความแพร่หลายจากการออกแบบให้กะทัดรัดรองรับกับกล้องยอดนิยมของตลาดได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ อาทิ Fujifilm Olympus Sony ตั้งแต่เริ่มวางจำหน่ายแม้กระทั่ งแบรนด์กล้องจากเยอรมันยังให้การยอมรับสั่งผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้า Leica

Nissin i60A แฟลชรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อต่อยอดความต้องการของนักถ่ายภาพในสายงาน Outdoor ที่ ต้องการกำลังไฟสูงขึ้นพร้อมทำงานในระบบไร้สาย (Wireless Flash) ให้ความคล่องตัวทั้งการใช้งานแบบส่วนตัว หรือมีทีมงานคอยอำนวยความสะดวก หากย้อนกลับไปมองแฟลชรุ่น i40 และ Di700A มีส่วนผสมหลายอย่างที่ลงตัวกับช่างภาพ อาทิ ขนาดความกะทัดรัด การเชื่อมต่อแบบไร้สาย จอแสดงผลแบบสี ดังนั้นในแฟลชรุ่นนี้จึงผสมผสานความต้องการมานำเสนอจนใครที่ได้เห็นข่าวลือช่วงแรกๆต่างอยากเห็นและสัมผัสผลิตภัณฑ์จริง วันนี้ทางเราได้นำแฟลช Nissin i60A มาแนะนำรายละเอียดทั้งรูปลักษณ์การออกแบบ ฟังก์ชั่นการทำงาน การควบคุมเชื่อมต่อสั่งงาน รวมถึงการนำออกไปใช้งานจริงเพื่อให้ท่านที่สนใจได้ทราบรายละเอียดก่อนตัดสินใจ หรือท่านที่ซื้อแล้วแต่ยังไม่ค่อยเข้าใจระบบก็จะได้ทดลองปรับตั้งค่าต่างๆไปพร้อมๆกัน...

 

 

Nissin i60A แฟลชที่มีขนาดเล็กแต่ให้กำลังไฟสูงมีค่าไกด์นัมเบอร์60 (ISO100 ที่ซูมแฟลชระยะ200mm) เหมาะสำหรับกล้องทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นกล้องDSLR, กล้องMirrorlessหรือแม้กระทั่งกล้องคอมแพค เพราะตัวแฟลชจะกะทัดรัดกว่าแฟลชทั่วไปที่มีกำลังเท่ากันมาก โดยจะแยกเป็น2ส่วน คือส่วนตัวแฟลช กับส่วนหัวแฟลช มองเผินๆทำให้คิดว่าเหมือนกับรุ่น i40 แต่ถ้าดูอย่าละเอียดจะเห็นเลยว่าเส้นสายสวยงามมีรายละเอียดมากกว่าแค่มีรูปลักษณ์คล้ายกันเนื่องจากถือว่าเป็นซีรีย์เดียวกันซึ่งเชื่อว่าNissinรุ่นต่อๆไปก็จะมีการออกแบบสไตล์ใกล้เคียงกันนี้ ความสูงจากฐานถึงส่วนบนอยู่ที่ 98 มม. ด้านข้างจะมีบานพับสำหรับใส่แบตเตอรี่จำนวน 4 ก้อน(Akaline/NiMH)ซึ่งการออกแบบมีมาตรฐานการผลิตดี แข็งแรงไม่ต้องกังวลเรื่องเปิด-ปิดบานพับเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยๆแล้วจะทำให้เสียหายง่ายๆ ส่วนเมาท์หรือฐานเสียบแฟลชส่วนใหญ่จะใช้วัสดุโลหะ ยกเว้นของSonyที่ใช้วัสดุโพลีคาร์บอเนตให้เป็นลักษณะเฉพาะของแบรนด์นี้ ในส่วนของหัวแฟลชจะมีขนาดกว้างและยาวขึ้นกว่ารุ่น i40 เนื่องจากมีค่าไกด์นัมเบอร์มากกว่า และมีระยะซูมแฟลชครอบคลุมมากขึ้นเป็นช่วง 24-200มม.เท่ากับรุ่น Di700Aทีเดียว ถ้าดึงแผ่นกระจายลงมาจะใช้ร่วมได้ถึงเลนส์16มม. นอกจากนั้นยังมีแผ่นสะท้อนแสง และตัวซอฟท์ครอบทำให้แสงนุ่มให้ใช้งานปรับทิศทางตามการก้ม-เงย(90องศา) หันซ้าย-ขวา (180องศา)ของหัวแฟลชเลย

 

 

Nissin i60A ออกแบบแผงควบคุมไว้ด้านหลังทั้งหมดฝั่งหนึ่งจะเป็นแป้นปรับโหมดการทำงาน ได้แก่ ไฟ LED, Slave Film(SF), Slave Digital(SD), Manual, A, TTL, Radio Slave Flash Trigger ส่วนอีกฝั่งจะเป็นแป้นฟังก์ชั่นของแฟลช ได้แก่ เลือกปิดเสียงเวลาชาร์จแบตเตอรี่, เลือกซูมแฟลชแบบแมนนวลด้วยการกดปุ่มค้างแล้วหมุนแป้นปรับระยะซูมตามชอบใจ, เลือกระบบ High speed Sync และเลือกช่องสัญญาน โดยระหว่างกลางแป้นทั้งสองจะมีปุ่ม เปิด/ปิด แฟลชและทดสอบแฟลช ด้านบนสุดจะเป็นจอแสดงผลแบบสีที่โดดเด่นด้วยเกจ์แสดงกำลังไฟเป็นวงโค้ง(คล้าย ๆ ในรถยนต์) ปรับได้ละเอียดครั้งละ 1/3 สตอป สามารถปรับได้ตั้งแต่ 1/256 จนถึงเต็มไฟ อันนี้ทำได้ละเอียดดีกว่าแฟลชเฉพาะกิจของหลายๆแบรนด์ในราคาที่ย่อมเยากว่าก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจของช่างภาพ

 

 

Nissin i60A แฟลชระดับ Advanced ที่มีฟังก์ชั่นเชื่อมต่อพลังงานภายนอกสำหรับช่างภาพที่ต้องการความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องแต่ละเฟรม และใช้งานต่อเนื่องเป็นจำนวนมากได้ด้วยการเชื่อมต่อกับช่องเสียบบริเวณใต้ไฟ LED ด้านหน้ากับ Nissin PS8 (ตัวพาวเวอร์ แพ็ค) ได้ หากรับงานนอกสถานที่ หรือเป็นงาน Outdoor นั้นเหมาะมากกับทางเลือกนี้ซึ่งโดยทั่วไปเราจะเห็นเฉพาะกับแฟลชรุ่นใหญ่ ตัวใหญ่เท่านั้น

 

 

Nissin i60A มีให้เลือกซื้อทั้งแบบเฉพาะตัวแฟลช และแบบชุดคู่กับ Air1 Commander ความแตกต่างคืออะไร...ต้องบอกที่มาที่ไปของรหัส A ต่อท้ายหมายถึง Air เป็นระบบการสั่งงานแบบไร้สายด้วยสัญญานคลื่นวิทยุช่วงย่านความถี่ 2.4GHz ครอบคลุมระยะการทำงานถึง 30 เมตร ทาง Nissin เรียกระบบนี้ว่า Nissin Air System(NAS) แฟลชทุกรุ่นที่มีรหัสนี้จะมีตัว Reciever(รับสัญญาน) ฝังอยู่ในตัว (Di700A,i60A) สามารถควบคุมสั่งงานผ่านตัว Air1 Commander ที่เปรียบเสมือนเป็น Transmitter(ตัวรับสัญญาน) ได้โดยไม่จำกัด Mount ไม่ว่าแบรนด์ไหนก็เชื่อมต่อกันได้ด้วย Air1 Commander

 

 

 

Nissin i60A เมื่อซื้อมาครั้งแรกแฟลชกับ Air1 จะทำงานสัมพันธ์กันทันทีไม่ต้องเซ็ทระบบอะไรใหม่ แต่เมื่อนำหัวไฟ i60A ไปเสียบเข้ากับฐานเสียบแฟลชกล้องเมื่อไรอุปกรณ์คู่นี้จะลืมกันไป คุณเพียงตั้งค่าใหม่ก็จะกลับมารู้จักกันเหมือนเดิมซึ่งทำได้ไม่ยากเริ่มจากปิดเครื่องทั้งแฟลชและ Air1 ก่อน จากนั้นเริ่มเปิดระบบแฟลชด้วยการกดปุ่มสัญลักษณ์ลูกกุญแจ คู่กับปุ่ม Power On ค้างไว้จะมีไฟกะพริบพร้อมเสียงเตือน ขั้นต่อไปจึงหยิบ Air1Commander เปิดระบบการทำงานด้วยการกดปุ่ม S พร้อมปุ่ม Power On ค้างแล้วปล่อย เสียงเตือนจะเงียบลง สุดท้ายทดลองกดปุ่ม Test แฟลชจะเชื่อมต่อกันได้เป็นปกติ ยกเว้น ตั้งค่ากลุ่ม และช่องสัญญานไม่ตรงกันเนื่องจากระบบ Air สามารถตั้งค่าเป็น Group ได้ 3 Group แยกเป็น Channel ได้อีก 8 Channel รวมเป็น 24 ช่องสัญญานที่ไม่ซ้ำกัน

 

 

Nissin i60A กับการเลือกใช้งานโหมดการทำงานตามที่ได้แนะนำไว้ในตอนต้นว่ามีอะไรบ้างแต่การนำไปใช้งานจริงมีวิธีคิด หรือวิธีจะเลือกใช้งานในวาระใดจึงจะเหมาะสมลองติดตามกันดู เริ่มจากโหมดแรกที่เป็นจุดขายหลัก คือ Wireless Flash แบบ Radio Slave Flash Trigger มี Channel A, B, C ให้เลือกปรับตั้งค่า หมุนเลือกใช้ในสถานการณ์ที่ต้องการจะแยกแฟลชออกจากตัวบอดี้กล้อง เพื่อควบคุมแสงให้ส่องสว่างมาจากทิศทางที่วางแผนไว้ซึ่งจะส่งผลให้มิติ และการไล่โทนสว่างของภาพทำได้สวยงามขึ้น ทั้งนี้ต้องตั้งค่าที่ Air1 Commander ให้ Group ตรงกันด้วยทุกครั้ง เวลาเลือกใช้ระบบไร้สายคุณสามารถเลือกโหมด TTL และ M ได้จาก Air1 Commander

 

 

 

 

ใช้แฟลชNissin i60A+Air1 ในการถ่ายภาพโดยวางไฟไว้ด้านบน ตั้งกำลังไฟไว้ที่ 1/2 ในโหมดM จากนั้นประกอบกล้องไว้บนขาตั้งกล้องให้อยู่ในมุมขนานกับตู้ปลา จากนั้นกะจังหวะกดชัตเตอร์หยุดการว่ายน้ำของปลากัด เราเลือกใช้ฉากหลังสีขาว หรือสีดำก็ได้ สำหรับกล้องตั้งค่าช่องรับแสงที่ f8, ความเร็วชัตเตอร์ที่ 1/125วินาที, ค่าความไวแสง ISO400 เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน โดยแบตเตอรี่ที่นำมาใช้ก็ควรชาร์จพลังงานให้เต็มกำลังความจุ

 

Nissin i60A มีโหมดการควบคุมแฟลชอีกรูปแบบ คือ โหมด SD กับ SF เป็นการทำงานแฟลชที่ถูกแสงกะพริบจากกล้องไปกระตุ้นตาแมวที่หน้าแฟลช(บริเวณหลังสกรีนชื่อแบรนด์) ให้รับรู้แล้วสั่งให้แสงแฟลชสว่างออกไปพร้อม ๆ กับการลั่นชัตเตอร์ชั่วเสี้ยวของวินาที ซึ่งโหมด SD ย่อมาจากคำว่า Slave Digital การทำงานของแฟลชจะคายประจุออกไปในรูปของแสงก็ต่อเมื่อตาแมว(Slave) ถูกกระตุ้น(แว๊บ) สองครั้ง(ครั้งแรกกล้องจะทำการวัดระยะก่อนแล้วจึงยิงแฟลชจริงออกไป) ส่วนโหมด SF ย่อมาจากคำว่า Slave Film การทำงานของแฟลชจะคายประจุออกไปในรูปของแสงเมื่อตาแมว(Slave) ถูกกระตุ้น(แว๊บ)เพียงครั้งเดียว ซึ่งส่วนใหญ่ช่างภาพจะเลือกใช้โหมดนี้หากต้องการใช้แฟลช Nissin ไปเสริมเพื่อใช้ร่วมกับแฟลชของแบรนด์อื่นๆ 

 

 

Nissin i60A ยังมีโหมดทำงานร่วมกับกล้องแต่ละแบรนด์อีก 3 โหมด คือ โหมดM, โหมดA, และโหมดTTL มาทำความเข้าใจทีละโหมดว่ามีรายละเอียดการควบคุมย่อยๆอย่างไรบ้าง เริ่มจากโหมดที่เรามักได้ยินว่าใช้ยากต้องเป็นโปรหรือมีความรู้เยอะๆถึงจะควรเลือกใช้โหมดนี้ ในความเป็นจริงโหมดนี้น่าจะใช้ง่ายสุดเนื่องจากเราสามารถปรับลดกำลังไฟแฟลชเองได้จากการสังเกตภาพที่ปรากฎหลังกล้อง ถ้ามืดไปก็เพิ่มกำลังไฟ และถ้าสว่างไปก็ปรับลดกำลังไฟให้สว่างน้อยลงกว่าเดิม ซึ่งสามารถตั้งกำลังตั้งแต่เต็มไฟจนลดได้น้อยสุดที่ 1/256 ของพลังงานเต็ม(GN.60)ทีเดียว ถัดมาโหมด A จะควบคุมการทำงานผ่านระบบวัดแสงของกล้องเมื่อคำนวณค่าแสงที่เหมาะสมแต่ละภาพเสร็จก็จะยิงแฟลชออกไปอัตโนมัติ โหมดนี้จึงง่ายเหมาะสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่ชำนาญการใช้แฟลชโหมดหนึ่ง สุดท้ายโหมด TTL เป็นการคำนวณค่าความสว่างของแสงแฟลชให้อัตโนมัติร่วมกับกล้องเช่นกัน แต่สามารถปรับชดเชยแสงได้ +/-2 สตอป (ปรับละเอียดครั้งละ1/3สตอป) รุ่นที่ออกแบบสำหรับ Sony ก็จะเป็นระบบ ADI ที่คำนวณจากการวัดแสงผ่านเลนส์และระยะห่างระหว่างกล้องกับวัตถุ(หากปรับเงยหัวแฟลชจะเปลี่ยนเป็นระบบTTLตามปกติ) ลองหงายแฟลชแล้วสังเกตฐานเสียบแฟชจะมีตุ่มๆหลายจุดมันก็คือจุดเชื่อมสัญญานที่ทำให้แฟลชกับกล้องถ่ายโอนข้อมูลให้รู้จักกันซึ่งจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์จะไม่สามารถอ่านข้อมูลข้ามแบรนด์กันได้ แต่สามารถนำไปใช้ข้ามสายพันธุ์กันได้ด้วยโหมดMเท่านั้นเพื่อป้องกันปัญหาวงจรช๊อต หรือเกิดอาการเอ๋อ ๆ

 

 

Nissin i60A สามารถชาร์จประจุพร้อมสำหรับการยิงแฟลชครั้งต่อไป หรือที่เรียกว่า Recycle Time ตั้งแต่ 0.1-5.5วินาที ขึ้นอยู่กับการปรับตั้งค่ากำลังไฟ ซึ่งต้องบอกว่ามันทำได้เร็วมากเมื่อเทียบกับค่าไกด์นัมเบอร์ที่สูง แฟลชจะมีระบบเสียงเตือนเวลาไฟพร้อมใช้งาน หรือปรับค่ากำลังไฟ แต่ถ้ารำคาญไม่อยากให้มีเสียงเตือนรบกวนก็สามารถปิดสัญญานเสียงนี้ได้ อ้อ! ยังมีอีกโหมดที่ยังไม่ได้แนะนำนั่นก็คือโหมด VDO ที่จะเปิดไฟ LED แสงสีขาวด้านหน้าเอาไว้ช่วยโฟกัสในที่มืด หรือเอามาใช้ในการถ่ายภาพแนวมาโครจำพวกดอกไม้ แมลงในมุมที่แสงสลัว ๆ ก็เหมาะไม่น้อยสามารถเลือกปรับได้ 9 ระดับ เปิดสว่างนานถึง 3.5 ชั่วโมง(เท่ากับi40) ใครที่ชอบการ Light Painting อาจนำไปทดลองวาดแสงสนุก ๆ แล้วมาอวดชมดูบ้างก็ได้นะครับ

 

 

Nissin i60A สามารถนำไปใช้งานร่วมกับแฟลชอื่นๆได้ไม่จำกัดด้วยอุปกรณ์เสริมที่ออกแบบให้เป็นแท่นเสียบแฟลชแบบ Built-in Receiver ชื่อว่า Air R ใช้แบตเตอรี่ขนาด AAA จำนวน 2ก้อน เพื่อช่วยให้ระบบทำงานพร้อมรับคำสั่งจาก Air1 Commander เพียงตั้ง Group และ Channel ให้ตรงกันก็จะควบคุมแฟลชให้สว่างแว๊บออกไปพร้อมกันทุกดวงได้เมื่อใช้เทคนิคการแยกแฟลชจากบอดี้ สำหรับแฟลชรุ่นเก่าบางตัวจะมีช่องเสียบ PC หรือเชื่อมต่อด้วยสายซิงโครไนซ์ Air R ก็รองรับระบบนี้ สำหรับการนำไปใช้งานสามารถวางบนโต๊ะเพียงกางบานพับด้านใต้ออกมา หรือขันสกรูน๊อต(เกลียวทำจากโลหะทองเหลือง) ด้านล่างเข้ากับขาตั้งไฟ หรือหัวขาตั้งกล้องจึงมั่นใจเรื่องการนำไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างดียิ่ง รูปลักษณ์ของอุปกรณ์เสริมชิ้นนี้ดูงานละเอียดมาตรฐานสูง มีความโค้งมน ดูมีราคาให้ความมั่นใจต่อลูกค้า และผู้ที่นำไปใช้ได้ไม่ยากเพราะวัสดุในแต่ละส่วนทำได้อย่างประณีตลงตัวสมกับเป็นสัญชาติญี่ปุ่น จะสังเกตว่าจุดสัมผัสสำคัญทาง Nissin จะพิถีพิถันใส่ใจมากเพื่อให้ใช้งานได้คงทนไม่แตกเปราะง่าย

 

 

Nissin i60A จากการทดสอบใช้งานมาระดับหนึ่งแฟลชรุ่นนี้น่าสนใจเรียกเสียงฮือฮาตั้งแต่มีการเปิดตัวแล้ว เมื่อได้เจอตัวจริงยิ่งประทับใจในการออกแบบสานต่อความสำเร็จ ระบบเชื่อมสัญญานไร้สายทำได้ว่องไวรวดเร็วกว่าเดิมแบบรู้สึกได้ ยิ่งท่านที่เคยใช้แฟลชแบรนด์นี้อยู่แล้วจะยิ่งคุ้นเคยเมนูต่าง ๆ หน้าจอแสดงผล แบบสีเป็นเรื่องที่พัฒนาต่อยอดจากรุ่นที่ผ่าน ๆ มาเพื่อให้เข้าใจง่ายซึ่งก็ใช้ง่ายจริง ๆ จากสัญลักษณ์สากล การเข้าถึงฟังก์ชั่น เมนูไม่ซับซ้อนสามารถกดตามไปได้เป็นลำดับขั้นตอน สำหรับท่านที่มือใหญ่อาจขัดใจบ้างกับปุ่มเปิด/ปิด และปุ่มทดสอบที่ออกแบบไว้ตรงกลางจึงกดยากไปหน่อย ถ้าทำส่วนเว้าให้รับกับนิ้วลงไปบริเวณปุ่ม Test ก็น่าจะช่วยลดปัญหานี้ไปได้มาก ในฟังก์ชั่นการซูมแฟลชทำได้ง่ายกว่ารุ่นเดิม คือเพียงกดค้างที่แป้นให้ตัวเลขทางยาวโฟกัสขั้นที่จอแสดงผลก็จะสามารถหมุน Dial เลือกได้เองทันที ในการชดเชยแสงสามารถอ่านค่าจากสเกลได้ง่าย ชัดเจน ปรับเปลี่ยนค่าไป1สตอปจะเป็นขีดสีแดง ถ้าปรับ1/3, 2/3 สตอปจะแสดงเป็นขีดสีขาว ขณะแฟลชสแตนบาย (stanby) จะกะพริบแสงสีเขียวเตือนที่ปุ่ม Test หากแตะปุ่มใดปุ่มหนึ่งค่าทุกอย่างก็จะกลับพร้อมใช้งานอีกครั้ง ท่านที่มีแฟลชอยู่แล้วต้องการจะหาเพิ่มเติมนี่เป็นทางเลือกแฟลชที่มีฟังก์ชั่นหลากหลายใช้งานได้เต็มรูปแบบจริงพร้อมรับประกันถึง 2 ปี จะติดหัวกล้องออกงานอีเว้นท์ หรือลุยเอ้าท์ดอร์รวมกลุ่มเพื่อนถ่ายภาพสนุก ๆ ก็ทำได้อย่างสมบูรณ์ตัวหนึ่งทีเดียว...

 

 

 

ใช้แฟลชNissin i60A+Air1 และAir R+ i40   ในการถ่ายภาพโดยวางไฟไว้ด้านบน ตั้งกำลังไฟไว้ที่ 1/2 ในโหมด M อีกดวงวางไว้ด้านขวา ตั้งกำลังไว้ที่ 1/4 จากนั้นประกอบกล้องไว้บนขาตั้งกล้องให้อยู่ในมุมขนานกับตู้ปลา จากนั้นกะจังหวะกดชัตเตอร์หยุดการว่ายน้ำของปลากัด ครั้งนี้เลือกใช้ฉากหลังสีดำเพื่อให้ตัดกันระหว่างปลากัดและฉากหลัง สำหรับกล้องตั้งค่าช่องรับแสงที่ f11, ความเร็วชัตเตอร์ที่ 1/250 วินาที, ค่าความไวแสง ISO100 

 

อุปกรณ์ถ่ายภาพดีๆจากทั่วทุกมุมโลกยังคงรอให้คุณเลือกสรรอยู่เสมอ กลับมาพบสาระดีๆและเนื้อหาเจาะลึกที่หาอ่านไม่ได้ทั่วไป เพื่อให้คุณมั่นใจก่อนตัดสินใจเลือกติดกระเป๋ากลับบ้านกับ BIGCamera ศูนย์รวมกล้องดิจิตอล ที่มีความสุขให้เลือกมากที่สุด

 

 

 

Nissin i60A’s Specification :

ค่ากำลังไฟ  :  Guide Number 60 (ISO 100/200mm)
ช่วงซูมหัวแฟลช  :  24-200mm (รองรับกับเลนส์16มม.เมื่อใช้แผ่นกระจายแสง)
ทิศทางควบคุม  :  ปรับหมุนซ้าย-ขวา ได้ 180องศา และเงยขึ้นได้ 90 องศา
จอแสดงผล  :  แบบColour LED
ปรับลดกำลังไฟ  :  1/1, 1/2 ,1/4 , 1/8, 1/16, 1/32, 1/64, 1/128, 1/256
ปรับแสงต่อเนื่อง  :  9 ระดับ
ชดเชยแสงแฟลช  :  +/- 2 สตอป
ระยะเวลาชาร์จ  :  0.1-5.5 วินาที
โหมดการทำงาน  :  LED VDO, SD, SF, M, A, TTL, NAS
โหมดพิเศษ  :  Slow Sync, High Speed Synchronization สูงสุดที่ 1/8,000 วินาที
สัมพันธ์ม่านชัตเตอร์ชุดที่หนึ่ง และชุดที่สอง, Wireless TTL
จำนวนยิงแฟลช  :  220 ครั้ง
การควบคุมไร้สาย  :  Air1 Commander
ขนาด  :  9.8x7.3x11.2 เซนติเมตร
น้ำหนัก  :  300 กรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่ขนาดAAจำนวน 4ก้อน)

 

 

Back to top