Review : FUJIFILM X-PRO2…รหัสคุณภาพบนความคลาสสิก

By - March 22, 2016 2590

Fujifilm X-PRO2, Fujinon XF18-135mmF3.5-5.6R LM OIS WR, F5.6, 1/125s,
ISO 200, Focal Length 135mm, Single AF Point

รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่ให้ความละเอียดขนาด24.3ล้านพิกเซล
โฟกัสที่พัฒนาแตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก
ด้วยจอยสติ๊กควบคุมระบบโฟกัสภาพที่คล่องตัวและแม่นยำ
ไว้ใจได้ทุกสถานการณ์จากเทคโนโลยีสุดล้ำ

FUJIFILM เปิดตัวได้อย่างร้อนแรงกับกล้องที่เป็นที่สุดของตระกูล X-Series ซึ่งทาง FUJIFILM เคยกล่าวไว้ว่าจะไม่เปิดตัวใหม่ถ้ายังไม่มีเทคโนโลยีที่พัฒนาก้าวข้ามจากสิ่งที่เป็นอยู่เดิม ดังนั้นกระแสของผู้ที่คลั่งไคล้ในกล้องหน้าตาคลาสสิกแต่แฝงไปด้วยนวัตกรรมใหม่ๆของวงการถ่ายภาพจึงเชื่อมั่นอย่างมากเมื่อตัวจริงเสียงจริงอย่าง X-PRO2 กำเนิดขึ้น...

FUJIFILM X-PRO2 ถูกส่งอออกไปทดสอบโดย X-PHOTOGRAPHER ทั่วโลกเพื่อนำภาพมาใช้ในงาน FUJIKINA 2016 ซึ่งคนไทยก็ได้รับเกียรติในครั้งนี้หลายท่านจะเห็นได้จากผลงานที่ถูกพิมพ์เป็นภาพขนาดใหญ่ภายในงานแม้จะเป็นเพียงไฟล์ Jpeg แต่ก็สามารถแสดงศักยภาพที่มีอยู่ได้อย่างสมบูรณ์ระดับหนึ่ง จากความละเอียดของเซ็นเซอร์ และตัวประมวลผลที่เป็นการเปลี่ยนโฉมอย่างแท้จริง ทำให้ระบบต่างๆ ที่อยู่ภายใต้โครงสร้างวัสดุแม็กนีเซียมอัลลอยด์มีความน่าสนใจและเป็นที่ต้องการทดสอบจากนักถ่ายภาพทั่วโลกว่าจะทำให้กล้อง MIRRORLESS ก้าวข้ามสู่ความเป็นมืออาชีพทดแทนกล้องที่ใช้กระจกสะท้อนภาพได้อย่างหมดข้อกังขา หรือยัง... ไปติดตามรายละเอียดที่จะทำให้คุณไม่อยากวางกล้องเมื่อมีอยู่ในมือ

FUJIFILM X-PRO2 ทำเอากระแส MIRRORLESS ในเมืองไทยร้อนอีกครั้งด้วยการพัฒนาประสิทธิภาพตั้งแต่ต้นน้ำจนกระทั่งปลายน้ำเพื่อทำให้เป็นกล้องระดับ FLAGSHIP อย่างแท้จริง และทำให้ยอดขายกล้องดิจิตอลในบ้านเรายังคงเป็นเบอร์หนึ่งต่อไป เรื่องที่ต้องกล่าวถึงก่อนคงเป็นเซ็นเซอร์ที่พัฒนารุ่นใหม่ออกมาเป็น X-Tran CMOS III เพิ่มขุมกำลังความละเอียดเป็น 24.3 ล้านพิกเซล มีการจัดเรียงฟิลเตอร์สีเป็นเอกลักษณ์เพื่อให้การเกิด Moire และ False Colors ต่ำให้ภาพที่มีรายละเอียดสูงโดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับเลนส์คุณภาพสูงอย่าง FUJINON การถ่ายทอดแปลงสัญญานจะให้รายละเอียดครบถ้วนสมบูรณ์จากการทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลใหม่ X Processor Pro ทำให้การประมวลผลสูงกว่าเดิมถึง4เท่า เรียกว่าตอบโจทย์แก้ข้อกังขาในเรื่องความเร็วทั้งการเปิดระบบการทำงานกล้อง ระบบโฟกัสภาพ การไล่โทนสี ให้รวดเร็วและนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ

FUJIFILM X-PRO2 โดดเด่นในเรื่องช่องมองภาพแบบ HYBRID คือสามารถมองได้ทั้งแบบ OVF (Optical Viewfinder) และ EVF (Electronic Viewfinder) มีชื่อเรียกทางการว่า Advanced Hybrid Multi Viewfinder มีการพัฒนาให้ระบบออพติคัลมีสวิทช์ปรับแก้สายตา เพิ่มระยะห่างของการมองทำให้ผู้สวมแว่นตาใช้งานได้สะดวกขึ้น ตัวกรอบเฟรมแสดงขอบเขตภาพได้ถึงเลนส์เทเลโฟโต้ 90มม. เมื่อสลับใช้ระบบ Electronic Viewfinder คุณจะพบกับความละเอียด 2.36 ล้านจุดแสดงภาพด้วยความเร็ว 85ภาพ/วินาที ลดระยะเวลาการแสดงภาพหลังจากบันทึกภาพแล้วเพียง 150ms ช่วยให้ถ่ายภาพแบบต่อเนื่องได้สบายสายตา

FUJIFILM X-PRO2 เปลี่ยนโฉมระบบโฟกัสที่เหนือชั้นขึ้นกว่าระบบออโต้โฟกัสในรุ่น X-T1 และ X-T10 โดยขยายพื้นที่ระบบ Phase Detection ครอบคลุมพื้นที่ภาพถึง 40% และในระบบ Zone AF จะมีจำนวนจุดโฟกัสระบบ Phase Detection ถึง 49 จุด และระบบ Contrast AF 77 จุด เมื่อปรับไปใช้ระบบ Single AF Point จะมีระบบ Phase Detection ให้ใช้ถึง 169 จุด และระบบ Contrast AF เลือกได้อีก 273จุด จึงไม่ต้องแปลกใจในเรื่องการติดตามโฟกัสในระบบ Wide/Tracking จะทำได้ต่อเนื่องและนุ่มนวลกว่าเดิมด้วยความเร็วในการส่งข้อมูลที่ 400fps ในเรื่องข้อมูลสีของวัตถุในการทำงานก็ประสิทธิภาพสูงขึ้นวิเคราะห์ความเปรียบต่างในภาพได้อย่างแม่นยำ ละเอียดขึ้นมาก

FUJIFILM X-PRO2 ตอบสนองการเปิดเครื่องจนพร้อมใช้งานสั้นเพียง 0.4วินาที การบันทึกภาพแต่ละภาพเว้นช่วงสั้นเพียง 0.25วินาที ถ่ายภาพต่อเนื่องเร็ว 8ภาพ/วินาที ปรับชัตเตอร์ความเร็วสูงสุดที่ 1/8,000วินาที และสัมพันธ์แฟลชที่ความเร็ว 1/250วินาที โดยที่แป้นปรับความเร็วชัตเตอร์นั้น จะมีช่องหน้าต่างแสดงค่าความไวแสงสำหรับปรับได้เหมือนกล้องในยุคฟิล์ม ที่มีความคล่องตัวสูงไม่ต้องเข้าไปเลือกในเมนูหรือปุ่มลัด ทุกรายละเอียดผลิตจากวัสดุโลหะทำให้แข็งแรง ทนทาน

FUJIFILM X-PRO2 ออกแบบมาเพื่อรองรับรูปแบบการทำงานที่จริงจังของมืออาชีพจึงต้องขึ้นรูปโครงสร้างด้วยวัสดุแมกนีเซียมอัลลอยด์ที่น้ำหนักเบา แข็งแกร่ง ซีลกันละอองน้ำ ฝุ่นถึง 61จุด จึงสามารถนำไปใช้ได้แม้มีฝนตก ความชื้นสูง ร่วมกับเลนส์รหัส WR (Weather Resistant) เวลาเจออากาศติดลบ 10 องศาเซสเซียสก็ยังรอคุณลั่นชัตเตอร์ ตัวบอดี้เป็นสีดำเงาผ่านการขัดผิวโลหะก่อนที่จะเคลือบสี ชัตเตอร์ทำงานได้ 150,000 ครั้ง ตัวกล้องมีแป้นด้านขวาเป็นแป้นชดเชยแสง +/-3EV แต่หากหมุนไปที่ C จะสามารถเพิ่มความสามารถชดเชยแสงไปถึง +/-5EV ทีเดียว และใต้บานพับบริเวณด้ามจับจะเป็นตำแหน่งใส่หน่วยความจำแบบ SD Card ซึ่งออกแบบให้เป็นแบบ Dual SD Card Slots รองรับการ์ดความเร็วสูงระดับ UHS II ที่มีความเร็วในการเขียน/อ่านข้อมูลระดับ 260 MB/S เพื่อรองรับการบันทึกภาพไฟล์วิดีโอ 4K ที่จะปล่อยให้ Upgrade Firmware ได้ด้วย รูปแบบการเลือกบันทึกลงการ์ดทำได้ 3 รูปแบบ คือบันทึกจนเต็มช่องที่ 1 แล้วจึงไปบันทึกช่องที่ 2, บันทึกแบบ Back up เป็นการบันทึกคู่กันทั้งสองช่อง และสุดท้ายแยกบันทึกระหว่าง RAW File กับไฟล์ Jpeg คนละการ์ด สำหรับกรณีต้องการก๊อปปี้ไฟล์โดยไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์ก็สามารถเลือกก็อปปี้ระหว่าง Slot ได้ทันทีเรียกว่ามีประโยชน์มากทีเดียวกับการทำงานระดับมืออาชีพที่หลายโอกาสไม่อาจคาดสถานการณ์ล่วงหน้าได้

FUJIFILM X-PRO2 พัฒนาระบบ Digital Split Image จากภาพขาวดำเป็นภาพสี หรือขาวดำก็ได้เป็นการปรับเล็งระบบโฟกัสภาพแต่ละส่วนในแนวนอนให้ต่อทับกันสนิทนับว่าแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ที่มีเฉพาะการขยายจุดโฟกัสให้ใหญ่ขึ้นมา หรือ Focus Peak ที่จะมีสีไฮไลท์แสดงส่วนชัดเมื่อโฟกัสเข้าจุดเวลาใช้เลนส์มือหมุนหรือปรับโฟกัสแบบแมนนวล เวลามองในช่องมองจะเห็นความสว่างและความใหญ่ที่สบายตาไม่ว่าจะใช้เทคนิคการถ่ายภาพซ้อน (Multiple Exposure) หรือการใช้ Advanced Filter เพื่อใส่เอ็กเฟ็กซ์ใดๆ ลงไปตามความคิดสร้างสรรค์ได้ชัดเจนเพราะสามารถเห็นผ่าน Electronic Viewfinder ทันทีที่เลื่อนเลือกใช้งานทั้ง 8 รูปแบบ สำหรับ Film Simulation ในรุ่นนี้มี ACROS เพิ่มขึ้นเหมาะกับนักถ่ายภาพที่ชื่นชอบโทนขาวดำที่นุ่มนวลให้สีดำลึก รายละเอียดยังคงอยู่ทั้งส่วนสว่าง และส่วนมืด นอกจากนั้นในรุ่นนี้ยังเพิ่ม Grain Effect ให้อารมณ์คนรักฟิล์มโดยเลือกได้ 2 ระดับ คือ Strong กับ Weak ทำงานร่วมกับ Film Simulation ได้ทุกรูปแบบ


XF56mmF1.2 R, F1.2, 1/1000s, ISO 200, Daylight WB, Astia	XF56mmF1.2 R, F1.2, 1/8000s, ISO 200, Daylight WB, Acros

FUJIFILM X-PRO2 มีขนาดบอดี้หน้าตาภายนอกไม่เปลี่ยนแปลงการวางปุ่มควบคุมสามารถเข้าใจและสร้างความคุ้นเคยได้ไม่ยากสำหรับนักถ่ายภาพมือใหม่ หรือผู้ที่เพิ่งหันมาคบกับ FUJIFILM เพราะแป้นควบคุมแต่ละจุดแยกกันชัดเจนไม่ชิดกันจนเผลอกดพลาด สำหรับจอยสติ๊ก (Focus Lever) ให้ความคล่องตัวอย่างไม่น่าเชื่อกับการเลื่อนเปลี่ยนตำแหน่งจุดโฟกัสทั่วทั้งภาพที่ทำได้รวดเร็วไม่แพ้ระบบทัชสกรีนทีเดียวเมื่อปรับไปขอบๆเพียงกดปุ่มย้ำลงไปจุดโฟกัสจะกลับมาอยู่กลางภาพอัตโนมัติ ข้อดีกว่าคือไม่ต้องพะวงต่อการที่จมูกจะไปเปลียนหรือเลื่อนจุดโฟกัสโดนไม่ได้ตั้งใจ ระบบการโฟกัสในที่แสงน้อยก็ค้นหาได้รวดเร็วมากนับว่าเป็นประสบการณ์ใหม่กับกล้อง FUJIFILM สำหรับท่านที่ต้องการควบคุมแบบรีโมทผ่าน Fujifilm Camera Remote Application คุณจะสามารถเลื่อนเปลี่ยนจุดโฟกัสด้วยการทัชสกรีนได้ด้วยใครที่อ่านแต่สเปคไม่ได้ทดลองจริงจะไม่มีทางทราบได้เลย

Fujifilm X-T10, Fujinon XC 16-50mm f3.5-5.6 OIS II, F64, 1/100s, ISO 200, AWB, Focal Length 50mm

FUJIFILM X-PRO2 ทำให้กล้องเซ็นเซอร์ขนาด APS-C มีคุณภาพไฟล์ไม่แพ้กล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ Fullframe ที่มีความละเอียดเท่ากันแต่ Dynamic Range กับ Noise คนทั่วไปคิดว่าย่อมมีความแตกต่างมากซึ่งเป็นเรื่องปกติของขนาดเซ็นเซอร์แต่กลับกลายเป็นว่า Luminance Noise ที่เกิดขึ้นทำให้เป็นเกรนภาพสวยงามภาพให้ความคมชัดสูง เมื่อใช้กับเลนส์ Fujinon แต่ละตัวที่ให้กำลังแยกขยายสูง สำหรับท่านที่บันทึกภาพเป็นไฟล์ RAW สามารถแปลงไฟล์ได้ในตัวกล้องทั้ง Film Simulation และค่าต่างๆ ได้อย่างที่ต้องการ หรือถ้าอยากถ่ายภาพคร่อมแสง คร่อมเอฟเฟ็กซ์ คร่อมไวท์บาลานซ์ก็สามารถกดชัตเตอร์ครั้งเดียวได้ภาพมาเป็นซีรีย์เลยด้วยความสามารถทั้งหมดที่ว่ามาจึงไม่แปลกใจว่า FUJIFILM กล้าประกาศว่าจะครองส่วนแบ่งตลาดกล้องดิจิตอลมากขึ้นทุกปีๆ

BIGCamera ศูนย์รวมกล้องดิจิตอล ที่มีความสุขให้เลือกมากที่สุด ขอมอบสิ่งดีๆ เสริฟถึงที่ด้วยสาระความรู้ ความสนุก สอดแทรกแง่คิดดีๆอย่างนี้เป็นประจำทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน อยากรู้อยากสนุกกับการนำเสนอกล้องรุ่นใหม่ๆผ่านตัวหนังสือ และภาพถ่าย อย่าพลาด! ติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาความรู้ควบคู่กับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ไม่เคยหยุดนิ่งของโลกใบนี้ แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ครั้งต่อไป...สวัสดีครับ