SONY ALPHA 580 กับการใช้งานจริง ใน WEDDING DAY

By - November 08, 2010 1562

เรื่อง/ภาพ โดย กล้องดิจิตอล ดอทคอม

การถ่ายภาพที่ขึ้นชื่อว่ายากที่สุดอย่างหนึ่ง คือ การถ่ายภาพงานแต่งงาน นอกจากภาพที่จะต้องสวยงามแล้ว ยังต้องเก็บพิธีการให้ครบถ้วน และต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อให้ได้ภาพที่สวยที่สุด ครบถ้วนทุกขึ้นตอนสำคัญ ในเวลาที่จำกัดที่สุด ในวันที่สำคัญที่สุดอีกวันของชีวิตนั่นเอง

เบิร์ด Foto-Mania ช่างภาพรุ่นใหม่ ซึ่งหากคนที่ชอบถ่ายภาพและชอบท่องเว็บไซต์ถ่ายภาพ คงมีโอกาสได้ผ่านตาในผลงานที่โดดเด่นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้ชื่อของ Foto-Mania แจ้งเกิดในสังคมออนไลน์ ตั้งแต่ยังถ่ายรูปเป็นงานอดิเรก จนทุกวันนี้ จนกลายเป็นช่างภาพอาชีพ และมีผลงานผ่านสายตามากมาย เพราะงานของ Foto-Mania มีเอกลักษณ์ ไว้ใจได้โดยเฉพาะการถ่ายงานพิธี เกริ่นนำกันถึงขนาดนี้ เรามาฟังช่างภาพอาชีพ พูดถึง ประวัติการก้าวเดินมาสู่ทางสู่วงการช่างภาพอาชีพเต็มตัว เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพได้ยึดเป็นแนวทางพัฒนาตัวเอง และพูดถึงกล้อง SONY A580 เมื่อได้ใช้งานจริง ในวันสำคัญจริงกันค่ะ

ภาพนี้ผมใช้กล้อง SONY ALPHA A580 + เลนส์ SONY 85 F 1.4

เข้ามาในวงการถ่ายภาพได้อย่างไร

เริ่มจากเป็นอาร์ทไดเร็คเตอร์ให้กับบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่งครับ ผมชอบถ่ายรูปเลยซื้อกล้องถ่ายภาพเล่นๆ แล้วบังเอิญได้เข้าไปอยู่ในสังคมออนไลน์ ก็เลยเอารูปไปโพสต์ เลยมีเพื่อนๆ หลายๆ คนชอบผลงาน เข้ามาชื่นชม จนกระทั่งวันหนึ่งมีคนเข้ามาติดต่อว่าสนใจรับงานมั้ย ก็เลยลองดู แรกๆ เริ่มรับงานแบบได้เงินนิดหน่อยเป็นค่ารถ ค่าโทรศัพท์มือถือ ทำงานประจำไปด้วย และหลังจากที่งานนั้นผ่านไป ก็เริ่มมีพอร์ทงาน มีคนชอบผลงานของเรา เป็นจุดเริ่มต้นของการเริ่มรับงาน

จุดเปลี่ยนที่เข้ามารับงานถ่ายภาพเต็มตัว

หลังจากนั้นก็มีงานจ้างเข้ามาเรื่อยๆ และหลายๆ ครั้งตรงกับวันธรรมดา ทำให้ลางานออกมาบ่อยๆ ไม่ได้ จนเราต้องเลือกว่าระหว่างลางานบ่อยๆ กับลาออกจากงาน อะไรมันบวกลบมากกกว่ากัน แต่เมื่อลองไตร่ตรองดูแล้ว การถ่ายรูปเป็นงานที่เรารัก และอยากอยู่กับมันมากกว่าเก้าอี้ตัวเดิมๆ ที่นั่งอยู่ในออฟฟิศซึ่งเราไม่สามารถจะจินตนาการได้เยอะ เพราะลูกค้าอยากได้อะไรเราก็ต้องทำตามเค้า แต่อันนี้เค้าจะทำตามจินตนาการเรา

เรียนจบทางด้านนี้มารึเปล่า

เคยเรียนอยู่ 2 เทอมเพราะเป็นวิชาเลือกอิสระ สมัยนั้นเป็นยุคฟิล์ม จะเน้นเรื่องถ่ายขาว-ดำ และถ่ายสินค้ามากกว่า

จากช่างภาพสมัครเล่น ก้าวเข้ามาเป็นช่างภาพอาชีพ รู้สึกอย่างไรกับการเดินทางบ้าง

ผมคิดว่าการเดินทางของผมยังอีกไกล การเดินทางของผมที่ผ่านมา ผมเดินมาแค่ครึ่งทาง เราได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องการเรียนรู้ และเดินหน้าหาต่อไป แต่เมื่อเทียบกับสมัยที่เรายังเป็นอาร์ทไดเร็คเตอร์ เรามีความสุขกับการเป็นช่างภาพกว่ามาก เพราะมันคือสิ่งที่เรารัก และเห็นคุณค่าของเวลา ที่เมื่อเรามีเวลาเยอะเราก็มีโอกาสได้ศึกษาอะไรเยอะและเดินหน้าได้เร็ว

ตั้งแต่ทำงานมา มีงานชิ้นไหนที่ประทับใจมากที่สุด

งานที่ประทับใจ จริงก็มีหลายชิ้น แต่ที่ประทับใจที่สุด คือ ได้ไปถ่ายงานคอนเสิร์ตเทิดพระเกียรติครั้งสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้กับพระพี่นาง เป็นงานพิธีที่ทรงเกียรติที่สุด ที่คัดช่างภาพเพียง 3 คน ในประเทศ ในงานพิธีจะมีศิลปินที่โด่งดังที่สุดของประเทศมาแสดง เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ทั้งการจัดงานและความรู้สึก เลยเป็นงานที่รู้สึกประทับใจ จริงๆ งานที่ประทับใจมีหลายชิ้น รวมไปถึงงานโฆษณาของ ปตท. ซึ่งเป็นการทำงานที่ตื่นเต้นที่สุด ที่ได้ร่วมงานที่มีโปรดักชั่นใหญ่ๆ ครั้งแรกๆ และได้ร่วมงานถ่ายภาพให้กับกับเอเจนซี่ 1 ใน 5 ของเมืองไทย

คิดว่าตัวเองถนัดถ่ายงานประเภทไหน

งานส่วนใหญ่ที่ผมรับ และถนัดที่สุด คืองานพิธี หรืองานที่ต้องใช้ความรวดเร็ว ในการปรับเปลี่ยนกล้องหลายๆ รูปแบบ เพราะส่วนตัวเป็นคนที่ชอบความท้าทาย ถ่ายอะไรไม่ซ้ำซากจำเจ งานส่วนใหญ่ของผมจึงเป็นงานเวดดิ้ง และงานอีเว้นท์

คิดว่าอะไรคือ สไตล์งานของ foto-mania

หลายๆ คนมักจะให้นิยามไว้ว่า ถ้าเจอโฟโต้ มาเนีย จะต้องเจอรูปถ่ายที่มีฟ้าสวย สีสัน และคอนทราสจัดๆ

เลนส์ช่วงไหน คือเลนส์ช่วงโปรดของคุณ

ถ้าเที่ยวแล้วขาดไม่ได้เลย แต่ก่อนจะเป็นเลนส์วาย แต่ปัจจุบัน ขอเป็นฟิก SONY 85 F1.4 เป็นเลนส์ที่ถ่ายบุคคลสวย หรือจะนำไปถ่ายภาพแนวไลฟ์ก็พอได้แม้จะไกลไปหน่อย

เห็นว่าเคยใช้กล้องมินอลต้ามาก่อน ชอบอะไรในมินอลต้า

กล้องตัวแรกของผม เป็นกล้องมินอลต้า D7D ที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงจริงๆ เป็นการเลือกกล้องที่ตั้งจากงบประมาณ 40000 เป็นโบนัสของงานประจำในวันนั้น ทำอย่างไรก็ได้ให้เงิน 4 หมื่นซื้อกล้องที่คุ้มเงินที่สุด วันนั้นเลยเล็งไปที่มินอลต้า เพราะมินอลต้าในขณะนั้น ด้วยจำนวนเงินเท่ากันให้อะไรที่มากกว่าคู่แข่งเสมอ

แล้วเมื่อซื้อมาแล้ว ชอบอะไรในมินอลต้า

สิ่งที่ผมชอบในกล้องมินอลต้าที่สุด คือ การจับที่ถนัดมือ ปุ่มฟังก์ชั่นที่สามารถปรับได้โดยไม่ต้องละสายตาจากช่องมองภาพ ทำให้เราไม่พลาดช็อตสำคัญ

SONY ALPHA 580 + SONY 16 -80 Z

แล้วเมื่อมินอลต้าเปลี่ยนเป็นโซนี่ ทำไมไม่ใช้ต่อ

เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่โซนี่เข้าเทคโอเวอร์มินอลต้า ผมลาออกจากงานเพื่อเป็นช่างภาพอาชีพ ช่วงเป็นจุดเปลี่ยนก่อนที่โซนี่จะซื้อมินอลต้า ช่วงนั้นหาเลนส์ที่ใช้กับมินอลต้ายากมาก พยายามจะหาเลนส์เพื่อใช้งานอาชีพ พวกเลนส์ไวแสง และเลนส์เทเลโฟโต้ไวแสง ไม่มีขายในท้องตลาด และงานของผมรอไม่ได้ จึงจำเป็นที่จะต้องย้ายค่ายเพื่อให้เหมาะสมกับงานที่รับ และหลังจากโซนี่เข้ามาเทคโอเวอร์แล้ว ก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนกลับได้ เพราะตอนนั้นเราก็เดินหน้า และลงทุนอุปกรณ์มากมายไปอีกยี่ห้อหนึ่งแล้ว จ่ายเงินไปชุดใหญ่แล้ว

ระยะเวลา 4 ปีหลังจากขายอุปกรณ์มินอลต้าไป แล้วได้มาจับกล้อง SONY a 580 รู้สึกอย่างไรบ้าง

ถ้าถามว่า กล้อง SONY A580 สำหรับผู้ที่ใช้งานถ่ายภาพท่องเที่ยว หรืองานที่ไม่ต้องใช้ความรวดเร็วมาก มันเป็นกล้องที่ดี สีสัน คอนทราสสวย ทุกอย่างดี WB ฉลาด ไม่ต้องปรับอะไรเยอะ เมื่อเทียบกับราคาถือว่าคุ้มค่า แต่หากนำไปถ่ายในงานพิธี ที่ต้องการความเร่งด่วนจะต้องมีการละสายตาจากช่องมองภาพบ้าง ในการเข้าเมนู

SONY ALPHA 580 + SONY 85 F 1.4

รู้สึกหนักใจหรือไม่ ที่รู้ว่าจะต้องใช้กล้อง SONY A580 ถ่ายงานแต่งงาน

ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะผมเคยใช้มินอลต้ามาก่อน จึงค่อนข้างมั่นใจในคุณภาพอยู่แล้ว แต่รู้สึกคือไม่คุ้นมือมากกว่า เพราะเดิมที่เราใช้กล้องเราเราถนัด เหมือนเราขับรถของเรา เราก็จะเข้าใจมันมากกว่า แต่ก็ถือว่าเป็นกล้องที่ทำความเข้าใจได้ไม่ยาก สำหรับผู้ที่ไม่เคยจับกล้องโซนี่มาก่อน

SONY ALPHA 580 + SONY 85 F 1.4

ได้ทดลองใช้ โหมด พานอราม่า โหมดถ่าย VDO Full HD และ ถ่ายกลางคืนถือด้วยมือ HDR ซึ่งเป็นโหมดเด่นของกล้องรุ่นนี้บ้างรึเปล่า

ผมได้ทดลองใช้ในวันแรกๆ ที่ได้กล้องมา แต่ในงานพิธี โดยเฉพาะพิธีแต่งงาน ที่พลาดจุดสำคัญไม่ได้เลย จำเป็นต้องใช้ความรวดเร็วในการถ่าย เลยไม่มีเวลาที่จะเล่นโหมดพวกนี้ แต่จากที่ลองทดสอบก่อนไปใช้งานจริง ผมว่าเป็นโหมดที่น่าสนุก และสามารถนำมาสร้างสรรค์งานที่น่าสนใจ แลเพิ่มมูลค่าของงานได้มากขึ้น