Review : Olympus OM-D E-M5II สวมบทมือโปรกล้องสายพันธุ์แกร่ง

 
 
OLYMPUS มีชื่อเสียงการเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีมาตลอด
ออกผลิตภัณฑ์ด้านการถ่ายภาพแต่ละครั้งล้วนสะท้อนเทรนด์ตลาด
กำเนิดใหม่ที่โหดกว่าเดิมจึงเริ่มเขียนตำนานใหม่อีกครั้ง
กับกล้องในตระกูล OM-D ที่มีชื่อเสียงทางด้านความอึดและความเร็ว
 
     OLYMPUS ออกแบบและพัฒนากล้องรุ่นใหม่ๆให้มีรูปร่างตลอดจนฟังก์ชั่นการทำงานที่ล้ำสมัยเป็นผู้นำของกล้องถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ ในครั้งนี้ก็เช่นกันหลังจากที่วางแนวทางของซีรี่ย์ OM-D ให้มีรุ่นเล็ก รุ่นกลาง และรุ่นใหญ่ครบถ้วนแล้ว ก็กลับมาพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีรุ่นสองให้กับกล้องตัวแรกที่เปิดตัวสร้างความฮือฮาให้กับวงการการถ่ายภาพทั่วโลกด้วยกล้องรูปทรงเหมือนกล้อง SLR ในอดีตที่มีชื่อเสียงในตระกูล OM กับรูปลักษณ์ขนาดตัวที่เล็ก กะทัดรัดพกพาสะดวกมีความคล่องตัวสูงเวลาหยิบออกมาใช้งาน
 
     OM-D E-M5 Mark II กล้องที่เล็กน้ำหนักเบาจากการออกแบบและพัฒนาระบบภายในตัวเครื่องให้กริปด้านหน้ามีส่วนเว้าเป็นร่องลึกทำให้เกิดความเพรียวบาง คล่องตัวด้านหลังก็โค้งยกตัวช่วยในการจับถือกระชับมากขึ้น เหมาะกับทั้งนักถ่ายภาพที่มือใหญ่หรือมือเล็กนิ้วจับไม่หลุดสันกริปอีกต่อไปต้องยอมรับเลยว่าบอดี้รุ่นนี้พัฒนาต่อยอดจากคำชมของ E-M10 ได้แบบรู้ใจคนใช้กล้องจริงๆ เป็นความประทับใจหากได้สัมผัส
 
 
     OM-D E-M5 Mark II ประกาศความโดดเด่นในเรื่องของระบบกันสั่นไหว VCM แบบ 5 แกน(5-axis image stabilization) ชดเชยแสงได้เทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์ถึงห้าสตอป เป็นกล้องที่มีกะโหลกหน้าตาเหมือน SLR ตัวแรกของโลกที่ใส่คุณสมบัตินี้เข้าไปให้ภาพมีความคมชัดสูงแม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ซึ่งมันพร้อมจะลุยไปด้วยทุกที่สนองความต้องการแม้จะมีฝุ่นหรือละอองน้ำมาเป็นอุปสรรค การทำงานของระบบนี้จะรองรับทั้งการถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอเคลื่อนไหวได้อย่างเยี่ยมยอด โดยเฉพาะความเมื่อยล้าจากการใช้งานเป็นเวลานานของกล้องตัวใหญ่ๆ จะลดลงอย่างมากเรียกว่าโอลิมปัสเน้นการถือถ่ายด้วยมือเปล่าไม่ต้องติดอุปกรณ์เสริมช่วยใดๆ ให้เกะกะ
 
 
     OM-D E-M5 Mark II ใช้เซ็นเซอร์ Live MOS ขนาด 16 ล้านพิกเซลที่ทำงานร่วมกับระบบประมวลผล TruPIC VII ช่วยถ่ายทอดรายละเอียด สีสัน ความคมชัดในทุกสภาพแสงให้เกิดความสมบูรณ์ของคุณภาพงานภาพถ่ายตัวกล้องมีสองสีให้เลือกคือ สีดำสุดหรูและสีเงินเงางามผิวสัมผัสดีเยี่ยมใส่ใจในทุกรายละเอียดมีแป้นหมุนด้านขวาขนาดใหญ่สะดวกมากยิ่งขึ้นสามารถมองรายละเอียดผ่านช่องมองภาพแบบอิเลคทรอนิคส์ให้ความคมชัดสูง ความละเอียดสูง 2.36 ล้านจุดสี มุมมองภาพ 100% ขยายภาพได้ 1.48 เท่าใช้เทคโนโลยี Adaptive Brightness ปรับความสว่างของพื้นหลังให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม และจอภาพขนาดใหญ่สามารถหมุนพลิกปรับมุมได้หลายมุมรองรับการถ่ายภาพในหลากหลายสถานการณ์คนวิดีโอคงไม่ต้องสาธยายว่าจะถูกใจโดนกันขนาดไหนเพราะคนทำงานด้านนี้มักต้องเจอกับงานที่ยุ่งยากวุ่นวายต้องมองทั้งมุมต่ำ มุมสูง หรือหลบแสงที่จ้าส่องเข้าจอภาพ
 
 
     OM-D E-M5 Mark II สร้างระบบการทำงานให้เอื้อกับการถ่ายภาพยนตร์แบบเหนือระดับด้วยเฟรมเรท (Frame Rate) สูงถึง 60p และบิทเรท (Bit Rate) ถึง 50 Mbps ควบคุมการบันทึกด้วยความราบรื่นความคมชัดสูงแบบ High Defination และเพิ่มความเนียนของภาพจากระบบป้องกันความสั่นไหว 5 แกนที่ทำให้เซ็นเซอร์จับภาพยกลอยขึ้นด้วยแรงแม่เหล็ก ซึ่งจะช่วยในการถือถ่ายโดยไม่ใช้ขาตั้งกล้องหรือราง ด้วยระบบ Multi Frame Rate, High Bit Rate และ All-Intra รวมทั้งการตั้งโค้ดเวลาทำให้สามารถตัดต่อภาพยนตร์ได้ดุจมืออาชีพ การมองภาพทำได้ผ่านสายHDMIปรับโฟกัสด้วยฟังก์ชั่น Focus Peaking มีให้เลือกถึง 4 สี ได้แก่ ดำ ขาว แดง และเหลือง ความเข้มสามารถปรับได้สามระดับตั้งแต่ต่ำ กลาง ไปถึงสูง ระบบเสียงสามารถแยกบันทึกด้วยเครื่องบันทึก Olympus IC ที่มีฟังก์ชั่นการอัดแบบ  PCM ต่อกับช่องเสียบไมโครโฟนเพื่อเพิ่มความคมชัดและคุณภาพของเสียง ส่วนที่สนุกและเป็นเอกลักษณ์ก็ต้องยกให้การนำ Art Filter เข้ามาใช้ร่วมในการบันทึกภาพวิดีโอได้ อาทิ Vintage, Partial Color, Old Film เพิ่มความสุนทรียภาพในการแสดงออกได้หลากหลายอย่างมีสไตล์
 
 
     OM-D E-M5 Mark II มีระบบโฟกัสอัตโนมัติที่เร็วที่สุดในโลกจากระบบ FAST AF ถ่ายภาพต่อเนื่องเป็นไฟล์ RAW ได้ถึง 5 ภาพ/วินาที ตั้งความเร็วชัตเตอร์สูง 1/8000 วินาที ระยะเวลาในการถ่ายภาพต่อเนื่องเพียง 0.444 วินาที (Time Lag) พร้อมระบบลดการสะเทือนของชัตเตอร์ในโหมด Anti-Shock (ม่านชัตเตอร์แบบอิเล็คทรอนิส์) ใช้ในการถ่ายภาพต่อเนื่องได้ด้วย สำหรับสถานที่ที่งดใช้เสียงก็เลือกเป็นสัญลักษณ์รูปหัวใจเรียกว่าพัฒนาปรับปรุงให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานสนองทุกรูปแบบให้หลากหลายผู้ที่ชื่นชอบการใช้งานร่วมกับแฟลชก็มีแฟลชรุ่นใหม่ FL-LM3 ความสามารถกันฝุ่น กันละอองน้ำ ปรับก้ม-เงยได้ 90 องศาและปรับหมุนซ้าย-ขวาได้ 180 องศา ควบคุมแฟลชแบบไร้สายได้เหมือนเดิม
 
 
   OLYMPUS OM-D E-M5 Mark II,  M.Zuiko Digital ED 40-150mm f/2.8 PRO,
F22, 1/320s, ISO 800, AWB, Focal Length 150mm
 
   OLYMPUS OM-D E-M5 Mark II,  M.Zuiko Digital ED 40-150mm f/2.8 PRO,
F10, 1/250s, ISO 100, AWB, Focal Length 46mm, with Profoto Flash
 
     OM-D E-M5 Mark II มีความสามารถพิเศษในการทำให้คุณภาพของภาพเหนือชั้นกว่ากล้องแบบฟลูเฟรมทั่วไปด้วยโหมด 40M High Res. Shot โดยกล้องจะบันทึกภาพ 8 ภาพ ในระดับความคมชัด 16 ล้านพิกเซล แล้วเลื่อนเซ็นเซอร์ครั้งละ 0.5 พิกเซลต่อสเต็ป ทีละช็อท เมื่อเรียบร้อยจะนำข้อมูลทั้ง 8 ภาพรวมกันเพื่อกลายเป็นภาพที่คมชัดพิเศษเพียงภาพเดียวเทียบเท่ากับการใช้กล้องที่มีเซ็นเซอร์ 40 ล้านพิกเซล (ไฟล์JPEG) เหมาะกับการถ่ายภาพทิวทัศน์ ภาพแนว Still Life หรืออื่นๆ ที่ต้องการรายละเอียดความคมชัดสูงเป็นพิเศษไม่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหว หากเปลี่ยนเป็นไฟล์ RAW จะทำได้สูงสุดเป็น60ล้านพิกเซลทีเดียว
 
 
 
     OM-D E-M5 Mark II มีฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และแชร์ภาพได้สะดวกสบายเพราะมีระบบ Wi-Fi ในตัว เพียงสแกน QR Code เพื่อติดตั้งแอพพลิเคชั่นให้รู้จักกันในครั้งแรกก็สามารถโอนภาพ ติด Geotag หรือเติมฟิลเตอร์ต่างๆ ได้ สิ่งที่พิเศษที่แฟนๆ ชื่นชอบคือการควบคุมกล้องถ่ายภาพแบบไร้สายผ่านแอพพลิเคชั่น Olympus Image Share ซึ่งใครที่เคยใช้ก็น่าจะติดอกติดใจในความสะดวกและง่ายไม่ว่าจะเรื่องการติดตั้ง หรือการเชื่อมต่อรับ-ส่งข้อมูล ไม่หงุดหงิดในการเข้าถึงเรียกใช้งานแต่ละใครให้อารมณ์เสีย การใช้งานแบตเตอรี่เวลาเชื่อมต่อสัญญานแบบไร้สายก็ควรมีแบตเตอรี่สำรองเพื่อการถ่ายภาพจะได้ไม่สะดุดระหว่างวัน ท่านที่ชื่นชอบการจับแบบใหญ่โตมั่นคงแนวกริปทางโอลิมปัสก็มีอุปกรณ์เสริม External Grip ECG-2 ช่วยให้จับมั่นคงยิ่งขึ้นสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้โดยไม่ต้องถอดออกจากตัวกล้องยึดกับขาตั้งกล้องและถอดออกได้ง่ายเพียงกดครั้งเดียวมีรางต่อ Quickshoe ด้านล่างของกล้อง อีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่ควรมีคู่อย่างยิ่งเมื่อใช้เลนส์เทเลโฟโต้ที่มักหาวัตถุเป้าหมายไม่เจอ External Dot Sight เสียบเข้าที่ฐานเสียบแฟลชได้เลยมีกลไกแบบเปิดยกตัวขึ้นเล็งเป้าหมายเหมือนที่มีในกล้อง Olympus SP100EE ที่เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว
 
   OLYMPUS OM-D E-M5 Mark II,  M.Zuiko Digital ED 40-150mm f/2.8 PRO,
F11, 1/500s, ISO 400, AWB, Focal Length 150mm
 
     BIGCamera ศูนย์รวมกล้องดิจิตอล ที่มีความสุขให้เลือกมากที่สุด ขอมอบสิ่งดีๆ เสริฟถึงที่ด้วยสาระความรู้ ความสนุก สอดแทรกแง่คิดดีๆ อย่างนี้เป็นประจำทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน อยากรู้อยากสนุกกับการนำเสนอกล้องรุ่นใหม่ๆ ผ่านตัวหนังสือ และภาพถ่าย อย่าพลาด! ติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาความรู้ควบคู่กับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ไม่เคยหยุดนิ่งของโลกใบนี้ แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ครั้งต่อไป...สวัสดีครับ
 
Olympus OM-D E-M5 Mark II Specifications :
  • เซ็นเซอร์ Live MOS ขนาด Micro Four Thirds ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
  • ชิพประมวลผล TruePic VII
  • ระบบกันสั่น 5 แกน 5-Axis VCM ลดการสั่นไหวได้ถึง 5 สตอป
  • ระบบ Autofocus แบบ Contrast Detect 81 จุด
  • ความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 1/8000 วินาที
  • ความเร็วชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ 1/16000 วินาที
  • ถ่ายภาพต่อเนื่องเร็วขึ้นเป็น 10 ภาพต่อวินาที  AF-S และ 5 ภาพต่อวินาที AF-C
  • จอแสดงผล Touchscreen แบบ Vari-angle ความละเอียด 1,040,000 พิกเซล
  • ช่องมองภาพความละเอียด 2,360,000 พิกเซล อัตราขยาย 1.48x
  • ถ่ายวิดีโอ Full HD 1080/60p บิตเรตสูง 52Mbps(IPB) และ 77Mbps(ALL-I)
  • วิดีโอสามารถตั้งค่า Time Code ได้
  • บอดี้ทำจากแมกนีเซียมอัลลอยด์
  • บอดี้มี Weather Seal ป้องกันละอองน้ำ, ฝุ่น, ทนอุณหภูมิได้ -10 องศาเซลเซียส
  • ฟีเจอร์ถ่ายภาพความละเอียด 40 ล้านพิกเซลจากการรวมภาพ 8 ภาพเข้าด้วยกัน(JPEG)
  • ถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซลสำหรับไฟล์ RAW
  • ฟีเจอร์ใหม่ Live View Boost II สว่างกว่าของเดิมใน E-M5 ถึง 5EV
  • มีฟีเจอร์ Keystone, Live Composite และ Olympus Capture แบบเดียวกับ E-M1
  • มี Focus Peaking(เลือกได้ 4 สี ดำ, ขาว, แดง, เหลือง)
  • ฟังก์ชั่น Clip ให้ผู้ใช้อัดคลิปสั้นๆหลายๆคลิปได้(1, 2, 4, 8 วินาที)
  • มาพร้อมแฟลช FL-LM3(GN 9) หัวแฟลชหมุนและก้มเงยได้
  • มี Wi-Fi ในตัว
 
 
Back to top