FUJIFILM X-E2 ความคลาสสิกร่วมสมัยของกล้อง

 
“ เสพศิลป์ ” Fujifilm X-E2, Fujinon XF 55-200 mm F3.5-4.8 R LM OIS, F4.8, 1/2700s, ISO800, Auto WB, FocalLength200mm
 
ความคลาสสิกในรูปลักษณ์ภายนอกของกล้องถ่ายภาพได้รับความนิยมสูง
ฟูจิฟิล์มเป็นผู้ผลิตแบรนด์แรกๆที่นำเสนอความขลังครั้งนี้
ซึ่งก็ทำให้นักถ่ายภาพตื่นตัวและเลือกบริโภคไม่น้อยกับรูปแบบย้อนยุค
ในโทนสีดำและสีเงินที่แพร่หลายดูสวยงามท้าทายกาลเวลา
 
     ประสบความสำเร็จไม่น้อยกับกล้องตระกูล X ที่มีความเป็น Premium Camera โดยไม่ต้องบรรยาย หรือแนะนำเนื่องจากรูปลักษณ์ภายนอกถูกออกแบบด้วยความพิถีพิถันทุกขั้นตอน โดยครั้งนี้กล้องตัวใหม่ที่ออกจากสายการผลิตมาหมาดๆให้ต่อยอดความสำเร็จด้วยประสิทธิภาพสูงขึ้น และมีเทคโนโลยีมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ทันต่อโลกออนไลน์ แต่การพัฒนาครั้งนี้ยังคงรูปลักษณ์ภายนอกไว้อย่างครบถ้วนมองผิวเผินเหมือนไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอันที่จริงเปลี่ยนแปลงไปให้เหมาะสมลงตัวกับการควบคุมระบบการทำงานเป็นอย่างมาก
Fujifilm X-E2 นิยามความเป็นกล้องสุดคลาสสิกที่แม้กาลเวลาจะผ่านมาถึงโลกไซเบอร์ แต่ความเป็นตัวตนในกล้องกลับถูกตรึงไว้ไม่เสื่อมคลาย อีกทั้งได้รับการพัฒนาให้ภายในมีเทคโนโลยีรุ่นใหม่ผสมผสานเข้าไปช่วยรองรับกับความต้องการของผู้ใช้งาน ที่ชอบความรวดเร็วของการประมวลผลภาพ และการส่งต่อข้อมูลไปให้ผู้อื่นด้วยความฉับไวอันเป็นผลจากการใส่หัวใจหลักอย่างเซ็นเซอร์ X-Trans CMOS Iiขนาด APS-C มีความละเอียด 16.3 ล้านพิกเซลที่เก็บรายละเอียด สีสัน ความคมชัดได้อย่างโดดเด่นจากการถอดฟิลเตอร์แก้อาการ Moireออกไปทำให้แสงตกลงบนเซ็นเซอร์โดยตรงภาพที่ได้จึงมีรายละเอียดความคมชัดมากยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแม้จะขยายภาพขึ้นมาดูใกล้ๆ
 
ตัวเซ็นเซอร์รับภาพความละเอียด16.3ล้านพิกเซล ด้านบนจัดเรียงเป็นระเบียบชดเชยแสงได้เพิ่มขึ้น ด้านบนจัดเรียงเป็นระเบียบชดเชยแสงได้เพิ่มขึ้น
     Fujifilm X-E2 ตอบสนองการทำงานเร็วตั้งแต่เปิดสวิทช์กล้องพร้อมใช้งานภายใน 0.5 วินาทีช่วงลั่นชัตเตอร์สั้นเพียง 0.05 วินาทีทำให้ไม่มีความหน่วงให้เสียอารมณ์ (Shutter Time Lag) อันเป็นผลจากตัวประมวลผลภาพรุ่นใหม่ EXR Processor II รวมถึงการสนองตอบเรื่องการโฟกัสภาพที่รวดเร็วภายใน 0.08 วินาทีเพราะใช้ระบบโฟกัสแบบ Intelligent Hybrid AF ที่ผสมผสานระบบการทำงานของระบบโฟกัสแบบ Contrast AF ใช้การตรวจจับความคมชัดจากความเปรียบต่างของโทนภาพ กับแบบ Phase Detection AF ที่อาศัยการตรวจจับความคมชัดจากความแตกต่างของพื้นผิวตัววัตถุ โดยกล้องจะเลือกใช้ระบบแรกก่อนเมื่อเกิดข้อจำกัดจึงปรับมาใช้ระบบหลังที่มีความแม่นยำ รวดเร็วมากขึ้นเวลาเล็งภาพ หรือเห็นภาพน่าสนใจช่วงเสี้ยวนาทีจะสามารถเก็บภาพได้ทันต่อเหตุการณ์เหมือนการใช้กล้อง DSLRแต่เจ๋งกว่าที่สามารถเห็นภาพตอนปรับค่ารับแสงได้ทันทีผ่านจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.04 ล้านจุดและช่องมองภาพ OLED EVF ขนาดใหญ่ที่ใสสว่างให้ความละเอียดสูงถึง 2.36 ล้านจุด มีระบบตรวจจับสัญญาน (Eye Sensor) คอยตัดระบบการทำงานสลับกับจอLCD ช่วยให้ประหยัดพลังงานแบตเตอรี่รวมถึงให้อารมณ์ในการถ่ายภาพทำให้การถ่ายภาพบุคคลมีความรู้สึกถึงความตั้งใจในการบันทึกภาพที่เกิด Eye Contact ระหว่างตัวแบบกับช่างภาพ ข้อดีอีกอย่างคือบันทึกภาพเสร็จสามารถเรียกดูในช่องมองภาพได้เลยไม่ต้องละสายตาออกมาดูแล้วเล็งใหม่
 
 
     Fujifilm X-E2 ออกแบบการควบคุมค่าแสงพื้นฐานด้วยแป้นปรับความเร็วชัตเตอร์ด้านบนปรับตั้งได้ตั้งแต่ 4 วินาทีจนถึงสูงสุด 1/4000วินาที มีชัตเตอร์ B,T ให้เลือกสำหรับการเปิดรับค่าแสงเป็นเวลานาน (Slow Shutter Speed) และ A (เลือกให้อัตโนมัติ) ที่กระบอกเลนส์จะมีวงแหวนสำหรับปรับรูรับแสง (Aperture) สำหรับท่านที่ยังไม่เคยใช้อาจจะงงว่าปรับโหมด A / P / S / M ตรงไหน เริ่มจากโหมด Aควบคุมค่ารูรับแสงเองต้องปรับแป้นความเร็วชัตเตอร์ให้ไปอยู่ที่ตำแหน่ง A (Auto) ถัดไปโหมด S ควบคุมค่าความเร็วชัตเตอร์เองต้องไปปรับสวิทช์ที่กระบอกเลนส์ให้เป็น Auto กล้องจะคิดค่ารูรับแสงให้อัตโนมัติ อีกโหมดเหมาะสำหรับมือใหม่หรือเวลาใช้งานเร่งรีบนั่นคือ โหมด P กล้องจะทำการหาค่ารูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ให้อัตโนมัติเพียงผลักสวิทช์ และแป้นหมุนไปอยู่ที่ตำแหน่ง Auto สุดท้ายโหมด M ควบคุมปรับตั้งค่าทุกอย่างเองได้ด้วยการเลือกไปยังตำแหน่งตัวเลขนั้นๆ เป็นอย่างไรบ้างกับการใช้งานโหมดการถ่ายภาพของกล้องตัวนี้...ไม่ยากอย่างที่กังวลเลยใช่มั๊ย
 
 
     Fujifilm X-E2 เลือกปรับระบบโฟกัสภาพเป็นแบบอัตโนมัติ (AF) มีให้เลือกแบบทีละภาพ (Single) กับแบบต่อเนื่อง (Continuous) และแบบปรับตั้งค่าเอง (MF) ที่มีระบบ MF Assist ช่วยขยายภาพจากส่วนกลางขึ้นมาให้มีขนาดใหญ่ง่ายต่อการตรวจสอบความคมชัดโดยยังเห็นองค์ประกอบภาพไปพร้อมกันนับว่าเป็นการปรับปรุงที่ช่วยให้สะดวกต่อการใช้งานมากกว่าระบบเดิมที่ได้ข้อมูลจากการพูดคุยกับนักถ่ายภาพทั่วโลก อีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่นำมาจากกล้องสมัยฟิล์มที่นำไปใช้ในรุ่น X100S มาก่อนหน้านี้ คือระบบ Digital Split Image เป็นระบบการตรวจสอบจุดโฟกัสด้วยการเล็งจากภาพที่เหลื่อมซ้อนให้เลื่อนมาเสมอเป็นภาพเดียวกันบริเวณกลางภาพโดยส่วนนี้จะทำให้เป็นสีขาว-ดำเพื่อให้เกิดความเปรียบต่าง (Contrast) ชัดเจนเป็นอีกรายละเอียดหนึ่งที่ฟูจิฟิล์มมีให้มากกว่าแค่หน้าตาแต่มันเป็นการดึงจิตวิญญานการใช้งานของสิ่งที่เรียกว่ากล้องมาด้วยนับว่าเป็นศิลปะการออกแบบที่ลึกซึ้งเข้าใจคนถ่ายภาพอย่างแท้จริงเวลาใช้งานทั้งสองระบบนี้เมื่อเลือกการโฟกัสแบบแมนนวลจะไม่รู้สึกอึดอัดอีกต่อไป อาทิการถ่ายภาพมาโครจำพวกดอกไม้ แมลง เหรียญ พระเครื่อง จิวเวลรี่
 
Fujifilm X-E2, Fujinon XF 18-55mm F2.8-4 R LM OIS, F5.6, 1/30s, ISO200, Auto WB, Focal Length18mm, Panorama Mode
 
Fujifilm X-E2, Fujinon XF 23mm F1.4 R, F3.2, 1/30s, ISO800, Auto WB, Focal Length 23mm, Miniature, No Tripod
 
     Fujifilm X-E2 ถ่ายทอดรายละเอียด ตลอดจนสีสันได้สมจริงแต่ถ้าต้องการเน้น หรือชอบสีจัดจ้าน หรือเปลี่ยนโทนเป็นเพียงขาวกับดำสามารถเข้าไปเลือกได้ใน Film Simulation ที่จำลองโทนสีชื่อดังของฟูจิฟิล์มมาไว้ให้เลือกตามใจชอบอาทิ Provia สำหรับการถ่ายภาพทั่วไป, Velvia จำลองรูปแบบฟิล์มสไลด์ให้สีสันจัดจ้านมีความอิ่มตัวสูง, Astia เหมาะกับการถ่ายภาพบุคคล สำหรับในโหมด Drive จะมีเอฟเฟกซ์เปลี่ยนแปลงโทนภาพธรรมดาสร้างสรรค์ให้กลายเป็นความแปลกใหม่ต้องไม่พลาดใช้งานคือโหมด Adv. เรียกเต็มๆว่า Advance Filter ซึ่งเพิ่มเติมมาให้จากรุ่นเดิมสะดวกต่อการเลือกใช้งานของนักถ่ายภาพทุกระดับ อาทิ Soft Focus, Miniature, Toy Camera, Dynamic Tone นอกจากนั้นยังเลือกถ่ายภาพพาโนรามาในแนวตั้ง แนวนอนเลือกปรับความกว้างได้ 2 ระดับ คือ M (ประมาณ 120 องศา), L (ประมาณ 180 องศา) จัดถ่ายได้ทั้งจากซ้ายมาขวาหรือขวามาซ้าย สามารถเลือกการถ่ายภาพซ้อนได้อีกด้วย อีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่เลือกใช้งานประจำเป็นการถ่ายภาพคร่อมสีกดชัตเตอร์ครั้งเดียวได้ 3 ภาพ (ตั้งในเมนูไว้ล่วงหน้าก่อนว่าต้องการให้เป็นโทนสีแบบใด)เหมาะมากกับอาการอยากได้หลายโทนสีในจังหวะเดียวกันโดยไม่ต้องไปปรับแก้ไขหรือตกแต่งผ่านโปรแกรมตกแต่งภาพต่างๆเมื่อดูภาพแล้วไม่ชอบก็ลบไฟล์ก็ได้กรณีที่มีพื้นที่ในเมมโมรี่ การ์ดเหลือน้อย ส่วนท่านที่ชอบถ่ายภาพคร่อมแสงสามารถปรับตั้งให้มีค่าแตกต่างกันกี่สตอปตามแต่เลือกซึ่งเป็นประโยชน์มากเพราะภาพบางอย่างออกมาแนวอันเดอร์สวยกว่าภาพโอเวอร์แนะนำว่าถ่ายคร่อมแสง 1 สตอปไปเลยเห็นผลชัดเจน
 
Fujifilm X-E2, Fujinon XF 18-55mm F2.8-4 R LM OIS, F3.6, 1/15s, ISO800, Auto WB, Focal Length36mm, B/W Tone, No Tripod
 
     Fujifilm X-E2 ปรับเปลี่ยนตำแหน่ง Q Menu มาไว้ให้นิ้วโป้งกดง่ายช่วยให้การเลือกเปลี่ยนค่าต่างๆสะดวกง่ายกว่าเดิมแล้วใช้ตำแหน่งเดิมเป็นปุ่ม AE-L ล็อกค่าความจำแสงที่แยกออกจากปุ่ม AF-L ที่ทำหน้าที่ล็อกจุดโฟกัสหลังจากเลือกตำแหน่งโฟกัสที่มีมาให้ 49 จุดซึ่งใช้สะดวกกว่าเดิมด้วยการกดจากแป้นควบคุมสี่ทิศทางที่ระบุไว้ชัดเจนบริเวณทิศทางลูกศรลงจึงควบคุมด้วยมือข้างเดียวได้ขณะเล็งผ่านช่องมองภาพอีกฟังก์ชั่นเพิ่มเข้ามาสำหรับชาวไอทีคือ Wi-Fi ช่วยให้การเชื่อมต่อโลกออนไลน์ผ่าน Fujifilm Camera App มีความสะดวกสบายผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตมีความคล่องตัวในการส่งข้อมูลภาพไปให้ผู้อื่น หรือแจ้งสถานะตนเองในขณะนั้น ซึ่งรองรับทั้งระบบ iOS และAndroid โดยการโหลดสามารถโหลดทีละภาพ หรือเก็บได้ทีละหลายภาพจากการพรีวิวภาพทั้งหมดในการ์ด รวมถึงการถ่ายภาพผ่านสมาร์ทโฟนที่เห็นภาพแบบ Real Time ท่านที่ชอบแชร์ก็อัพโหลดต่อไปยัง Social Network หรือเข้า E-mail ให้เพื่อนสบายๆ
 
XF 55-200mm F3.5-6.8R LM OIS,
F5, 1/250s, ISO200, Focal Length 95mm
XF 55-200mm F3.5-6.8R LM OIS,
F4.8, 1/60s, ISO200, Focal Length 200mm
 
     Fujifilm X-E2 พิสูจน์ให้เห็นถึงการมุ่งมั่นในการทำกล้องที่เข้าถึงนักถ่ายภาพรุ่นใหม่ และรุ่นเก่าให้เดินบนเส้นทางเดียวกันได้นั่นคือ เส้นทางสายศิลปะที่มีกล้องเป็นเครื่องมือถ่ายทอดแนวความคิดสะท้อนลงเซ็นเซอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ประสิทธิภาพที่พัฒนามาสนองความต้องการก้าวล้ำจนกล้องกลุ่มไร้กระจกถอดเปลี่ยนเลนส์ได้(Interchangeable Lens Camera System) มีความนิยมสูงสุดติดต่อกันมาหลายปีจากการเปรียบเทียบกับกล้องกลุ่มสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยว (DSLR) เป็นหลักปัจจุบันมีการเปรียบเทียบกับเซ็นเซอร์ขนาดฟูลเฟรมแทนนั่นแสดงให้เห็นถึงการก้าวข้ามขีดความสามารถระดับมาตรฐานมาไกลแล้วสำหรับกล้องระดับพรีเมียมที่จัดว่าเป็น Flagship ของแต่ละแบรนด์โดยเฉพาะ Fujifilm ที่สร้างแนวทางเฉพาะเป็นของตนเองจนแบรนด์อื่นต้องเดินตาม นักถ่ายภาพที่มีโอกาสใช้กล้องรุ่นนี้แนะนำให้ลองใช้งานร่วมกับเลนส์ในกลุ่ม XF ที่มีผลิตออกมาหลายช่วงแล้วตั้งแต่เลนส์ไวด์จนถึงเลนส์เทเลโฟโต้ และกำลังจะมีออกตามมาอีกหลายตัว ซึ่งล้วนแต่เป็นเลนส์ Fujinon ที่มีมาตรฐานสูง มีระบบ Optical Image Stabilization ป้องกันภาพสั่นไหวด้วยชิ้นเลนส์ แม้แต่เลนส์ชุดคิทมาพร้อมกล้องก็ให้ผลงานที่เยี่ยมยอดกว่าเลนส์กล้องในช่วงเดียวกัน ของแบรนด์อื่นรุ่นที่เทียบเท่ากัน ฉะนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจกับน้ำหนักของเลนส์ที่มีมากกว่าเลนส์ทั่วไปจากการเลือกใช้ชิ้นแก้วคุณภาพสูง และเคลือบผิวชิ้นเลนส์ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง นอกจากนี้ยังออกแบบเม้าท์เลนส์เป็นโลหะเพื่อรองรับการใช้งานที่สมบุกสมบันถอดเข้า-ออก เปลี่ยนช่วงทางยาวโฟกัสเป็นประจำอย่างมั่นใจว่าจะไม่แตกหักง่ายๆ ตัวกระบอกเลนส์ก็ออกแบบได้ประณีตเซาะร่องช่วยให้จับถนัดกระชับมือ ในรุ่นนี้มีกริปจับเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับท่านที่มือใหญ่กว่ากล้องส่งผลให้ควบคุมกล้องได้ถนัดขึ้นกว่าเดิมเวลาใช้งานนานจะไม่เกิดความเมื่อยล้าเร็ว ดังนั้นโดยรวมกล้องรุ่นใหม่นี้มีประสิทธิภาพก้าวกระโดดจากรุ่นเดิมเป็นอย่างมากในสิ่งที่จำเป็นต้องมีเพื่อการควบคุมที่สะดวกเพิ่มโอกาสได้ภาพในจังหวะสำคัญได้เป็นอย่างดี แต่อยากเพลิดเพลินต่อเนื่องควรเลือกซื้อแบตเตอรี่เพิ่มอีกสักก้อนสำหรับสำรองกรณีอยู่ในอากาศหนาว หรือถ่ายภาพต่อเนื่องเป็นเวลานานแล้วแบตเตอรี่ในตัวหมดอย่างไม่คาดคิด
 
XF 18-55 mm F2.8-4 R LM OIS,
F4, 1/60s, ISO800, Focal Length55mmaaaaaaaaaaaaa
XF 55-200 mm F2.8-4 R LM OIS,
F4, 1/60s, ISO800, Focal Length 55mm
 
Fujifilm X-E2 specification highlights:
  • เซ็นเซอร์ X-Trans CMOS II ขนาด APS-C ความละเอียด 16.3 MP (without an optical low pass filter)
  • ตัวประมวลผล EXR Processor II
  • ระบบโฟกัสพร้อมทำงานภายใน 0.08 วินาที
  • ตั้งค่าความไวแสงตั้งแต่ ISO 200-6400
  • ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 7 ภาพต่อวินาที
  • ช่องมองภาพอิเล็คทรอนิคส์ OLED ความละเอียด 2.36 ล้านจุด
  • จอ LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.04 ล้านจุด
  • ระบบ Lens Modulation Optimizer ช่วยลดการกระเจิงของรูรับแสง แคบทำให้ภาพคมชัดสม่ำเสมอ ลดอาการเบลอ
  • บันทึกภาพวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p
  • มีช่องเสียบไมโครโฟนขนาด 2.5 มม.บันทึกเสียงในระบบสเตอริโอ
  • สามารถปรับโทนสีของภาพด้วย Film Simulation
  • Advanced Filter เอฟเฟ็กซ์พิเศษช่วยสร้างสรรค์ภาพ
  • ระบบโฟกัสภาพ Digital Split Image ทำงานในระบบ MF
  • แป้นชดเชยแสงได้ +/-3EV
  • ส่งข้อมูล และควบคุมการทำงานผ่านระบบ Wi-Fi ด้วยอุปกรณ์สมาร์ท ดีไวซ์
  • ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น
 
 
Back to top