Field Test Review Sony A9 : Beyond Revolution.

 

เรียกว่าการเปิดตัวของกล้อง Sony A9 นั้นสร้างเสียงฮือฮาและทำให้ A9 กลายเป็นกล้องที่ถูกจับตามองมากที่สุดในเวลานี้ทั้งในด้านของเทคโนโลยีและประสิทธิภาพของกล้อง ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Sony A9 นั้นไม่ใช่กล้องที่ออกมาแทน Sony A7 แต่อย่างใด เพราะทั้ง 2 รุ่นมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน โดยตัว A7 mark II นั้นออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานทั่ว ๆ ไป A7r mark II ตัว R มาจากคำว่า Resolution เหมาะสำหรับคนที่ต้องการภาพที่ความละเอียดสูง A7s mark II ตัว S มาจากคำว่า Sensitivity กับจุดเด่นที่มีในเรื่องของความไวแสงที่ดีกว่ารุ่นอื่น ๆ ส่วน A9 นั้นเน้นเรื่องของความเร็ว ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการถ่ายภาพ ความเร็วโฟกัสและนั้นเองทำให้ A9 แตกต่างจาก A7 series

 

 

เป็นครั้งแรกที่ Sony นำเซ็นเซอร์ Exmor RS เป็นเซ็นเซอร์ Stacked CMOS ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซลมาใส่ในกล้อง Full frame อย่าง A9 ความพิเศษของเซ็นเซอร์ตัวนี้คือ การเพิ่มหน่วยความจำและตัวส่งข้อมูลซ้อนไว้ด้านหลังของเซ็นเซอร์ทำให้กล้องตัวนี้โดดเด่นมากทั้งในเรื่องของความเร็วในการส่งข้อมูลจากเซ็นเซอร์ไปที่ชิปประมวลผล ทำให้ A9 สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องถึง 20 ภาพต่อวินาที รวมถึงมีพื้นที่การโฟกัสที่ครอบคลุมได้มากถึง 93% และอื่น ๆ อีกมากมายนั้น ล้วนมาจากเซ็นเซอร์ตัวนี้

 

 

นอกจากนี้หน่วยความจำและตัวส่งข้อมูลที่เพิ่มเข้ามาทำให้การส่งข้อมูลทำได้เร็วมากขึ้น เมื่อทำงานร่วมกับชิปประมวลผลตัวใหม่ Bionz X ส่งผลให้สามารถใช้อิเล็กทรอนิกส์ชัตเตอร์ได้โดยไม่เกิด Rolling Shutter นั้นเอง และที่สำคัญเมื่อกล้องมีความเร็วที่มากขึ้นส่งข้อมูลต่าง ๆ ได้ไวขึ้นนั้นทำให้บัฟเฟอร์ของกล้องมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้หลายร้อยภาพโดยที่ไม่ติดปัญหาบัฟเฟอร์เต็มให้รำคาญใจ

 

 

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ A9 นอกจากความเร็วในการถ่ายภาพและการส่งข้อมูลแล้ว จำนวนจุดโฟกัสที่มีเยอะมากถึง 693 จุด ครอบคลุมพื้นที่กว่า 93% ของภาพ ทำให้สามารถโฟกัสวัตถุต่าง ๆ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แม่นยำทุกการเคลื่อนไหว ความเร็วในการโฟกัสที่สูงมาก และสามารถโฟกัสแบบติดตามวัตถุได้ชนิดที่ว่ากัดไม่ปล่อยเลยทีเดียว

 

 

อีกหนึ่งสิ่งที่ทาง Sony ปรับปรุงใหม่ให้ดีกว่าเดิมนั้นก็คือช่องมองภาพ ด้วยความละเอียดที่สูงถึง 3.7 ล้านจุดของช่องมองภาพ EVF ตัวนี้ และชิ้นเลนส์ T* coating ทำให้ช่องมองภาพของ A9 นั้นเป็นช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ที่ดีที่สุดของกล้อง Mirrorless ความสว่าง ความคมชัดนั้นให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับช่องมองภาพแบบ Optical ในกล้อง DSLR เลยทีเดียว

 

 

พูดถึงสิ่งที่อยู่ภายในตัวกล้องมาแล้วเรามาดูภายนอกกันบ้าง สิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่ใน A9 นั้นก็คือ Joystick นั้นเอง เดิมใน A7 series ไม่มีให้ใช้ทำให้การเลือกจุดโฟกัสทำได้ไม่สะดวกเท่าไหร่ การเพิ่ม Joystick เข้ามาช่วยให้การถ่ายภาพที่ต้องใช้ความเร็วในการปรับโฟกัสได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

ด้านบนซ้ายของตัวกล้องจะมีแป้นหมุนปรับโหมดการถ่ายภาพและปรับโหมดการโฟกัสเพิ่มเข้ามา ทำให้เราสามารถปรับตั้งค่าโหมดการถ่ายภาพและการโฟกัสแบบได้ต่าง ๆ ได้รวดเร็วโดนที่ไม่ต้องเข้าไปในเมนูเหมือนเมื่อก่อน

 

 

ช่องใส่เมมโมรี่การ์ดของ A9 นั้นสามารถใส่ SD Card ได้ 2 Slot ฝาเปิดปิดช่องใส่ SD Card จะมีตัวล็อคอยู่ใช้งานง่าย โดย Slot ที่ 1 จะอยู่ด้านล่างและ Slot ที่ 2 จะอยู่ด้านบน สามารถรองรับ SDXC แบบ Type II แค่ Slot 1 เท่านั้น (ถ้ารองรับทั้ง 2 Slot จะฟินกว่านี้) นอกจากนี้ปุ่ม Record เดิมที่เคยอยู่ด้านข้างใกล้ ๆ ฝาปิดช่องใส่การ์ดก้ถูกย้ายมาอยู่ในตำแหน่งใหม่ให้สามารถใช้งานได้สะดวกกว่าเดิม

 

 

เรื่องที่หลาย ๆ คนพูดถึง Sony และเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนอยากให้แก้ไขนั้นก็คือ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่รุ่นใหม่ สำหรับ A9 นั้นมีแบตเตอรี่ที่อึดกว่า A7 Series มาก ๆ ผมไม่อยากนับการใช้งานว่าแบต 1 ก้อนสามารถถ่ายภาพได้กี่รูปเพราะกล้อง A9 ถ่ายภาพได้เร็วมาก ถ้าคุณกดชัตเตอร์ค้างไว้ 30 วินาที คุณก็จะได้ภาพไป 600 ภาพแล้วดังนั้นอย่าแปลกใจที่มีคนบอกคุณว่าแบตตัวนี้สามารถถ่ายภาพได้เกิน 4000 รูปแล้วแบตเตอรี่ยังไม่หมดมันจะดูโอเวอร์ไปหน่อย แต่จากการใช้งานจริง ๆ แบตตัวนี้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 6-8 ชั่วโมงอย่างแน่นอน

 

 

 

ทดสอบการใช้งานจริง

เราได้มีโอกาสเข้าร่วมทดสอบกล้อง Sony A9 ในงาน Thailand Super Series Bangsean Grandprix ที่ผ่านมา 1 วันเต็มที่ได้ใช้ A9 แบบเต็มที่กับการถ่ายภาพรถ Supercar ที่แข่งขันกันด้วยควมเร็วสูง เลนส์ที่ได้ใช้ทดสอบมี 2 ตัวคือ FE 24-70mm f2.8 GM OSS และ 70-200mm f2.8 GM OSS สิ่งแรกที่ทำให้เราทึ่งก็คือ ระบบโฟกัสแบบต่อเนื่องของกล้อง A9 ที่ทำได้ดีมากแบบที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนในก่อนรุ่นไหน ๆ

 

 

 

การถ่ายภาพต่อเนื่องที่ 20 ภาพต่อวินาทีแบบไม่มี Black out นั้นทำให้เราสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของวัตถุได้อย่างต่อเนื่องเป็นจุดที่ชอบมาก ๆ และความเร็วในการโฟกัสของ A9 นั้นทำให้การถ่ายภาพกีฬาที่ต้องใช้ความเร็วสูงแบบการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ Circuit เป็นเรื่องง่ายไปเลย เพียงแค่คุณมองเข้าไปในช่องมองภาพ กดโฟกัสและแพนกล้องตามรถแข่งที่คุณต้องการ ประคองให้รถอยู่ในเฟรมภาพและปล่อยให้กล้องทำหน้าที่ของมันไป ภาพสวย ๆ จังหวะดี ๆ จะถูกบันทึกลงใน SD Card ของคุณง่าย ๆ แบบนี้เลย เรียกว่าตัวกล้องนั้นฉลาดและมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้คนธรรมดา ๆ กลายเป็นช่างภาพสายกีฬาได้ไม่ยาก

 

 

 


การโฟกัสวัตถุที่วิ่งเข้าหากล้องของ A9 ทำได้ดีเยี่ยมมาก ๆ โฟกัสติดตามแทบไม่หลุดเลย ผมเลือกใช้โฟกัสแบบ AF-C และโหมดการโฟกัสแบบ Flexible Spot M เพื่อเลือกบริเวณที่เราต้องการโฟกัสและจัดองค์ประกอบไปด้วยในตัว ระบบการโฟกัสแบบของ A9 นั้นยอดเยี่ยมมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านของพื้นที่ที่คลอบคลุมกว่า 93% ของเฟรมภาพ ความเร็ว และที่สำคัญที่สุดคือ ความแม่นยำ ทั้งหมดคือความสุดยอดของเทคโนโลยี 4D Focus ที่ Sony ใส่ไว้ใน A9

 

 

 


การเก็บรายละเอียดภาพของ A9 นั้นสามารถทำได้ยอดเยี่ยมมาก ๆ Dynamic range กว้างพอที่จะเก็บรายละเอียดของภาพที่มีสภาพแสงแตกต่างกันมาก ๆ ได้ครบถ้วนสีสันของภาพที่ถ่ายทอดออกมาทำได้ดีและมีความเป็นธรรมชาติ

 

 

 

 

 

 


A9 ให้ความมั่นใจได้ว่า ตัวกล้องสามารถสร้างสรรค์จินตนาการของเราให้ออกมาเป็นภาพจริงได้อย่างง่ายดาย ทำให้เราไม่ต้องกังวลเรื่องอุปกรณ์การปรับค่ากล้องหรืออะไรต่าง ๆ เรารวบรวมสมาธิของเราไปที่ถ่ายภาพภาพ การคิดจินตนาการของเราได้อย่างเต็มที่นั้นเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

A9 เป็นกล้องที่ทำให้เราถ่ายภาพสนุกมากขึ้น เราสามารถถ่ายทอดจินตนาการของเราออกมาได้อย่างเต็มที่เพราะเรารู้ว่ากล้องจะสามารถทำให้จินตนาการของเรานั้นเป็นจริงขึ้นมาได้ ด้วยขนาดที่เล็กกระชับมือน้ำหนักตัวที่เบาแม้ติดเลนส์ 70-200mm ที่มีขนาดใหญ่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการถ่ายภาพแต่อย่างใด นี่คือกล้องที่ปฏิวัติการถ่ายภาพและให้คุณมากกว่าการถ่ายภาพอย่างแท้จริง
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด ที่ให้โอกาสเข้าร่วมกิจกรรมในการทดสอบกล้อง Sony A9 ในการแข่งขัน Thailand Super Series ที่บางแสนในครั้งนี้

 

 

 

 

 

Back to top