รีวิวเจาะลึกเลนส์ Tokina AT-X Pro SD 12-24mm F4 (IF) DX II

      เลนส์ Tokina AT-X Pro SD 12-24mm F4 (IF) DX II เป็นหนึ่งในเลนส์ซูมมุมกว้างสำหรับกล้องที่มีเซนเซอร์ขนาด APS-C ที่ผลิตโดยผู้ผลิตเลนส์อิสระ เลนส์ Tokina รุ่นนี้ได้รับการกล่าวถึงในเรื่องของการใช้งานและคุณภาพที่ดีเมื่อเทียบกับเลนส์ในระดับเดียวกัน โดยมีการพัฒนาการเคลือบผิวหน้าเลนส์ทำให้ลดการเกิดปัญหาเรื่องแสงแฟลร์ได้ดีขึ้น และเพิ่มมอเตอร์ระบบออโต้โฟกัสเข้าไปในเมาท์ Nikon ทำให้กล้อง Nikon ที่ไม่มีมอเตอร์โฟกัสในตัวสามารถใช้เลนส์ Tokina AT-X Pro SD 12-24mm F4 (IF) DX II ได้ในส่วนของดีไซน์ชิ้นมีเลนส์ 11 กลุ่มประกอบไปด้วยชิ้นเลนส์ 13 ชิ้น โดยมีชิ้นเลนส์ Asperical ที่ช่วยลดการบิดเบี้ยวของภาพถึง 2 ชิ้น และชิ้นเลนส์ Super Low Dispersion ที่ช่วยลดอาการขอบม่วงบริเวณที่มีคอนทราสสูงๆ 1 ชิ้น เลนส์ Tokina รุ่นนี้ยังมีระบบ One-Touch Focus Clutch ที่ช่วยให้เปลี่ยนระบบออโต้โฟกัสเป็นแมนนวลโฟกัสได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ดึงวงแหวนโฟกัสบริเวณกระบอกเลนส์เข้าหาตัว

คุณสมบัติหลัก

       - เลนส์ไวด์ซูม ช่วงทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 18-36mm ในระบบกล้องฟูลเฟรม
       - รูรับแสงกว้างสุดที่ f4 ตลอดทุกช่วงซูม
       - รองรับทั้งเมาท์ Canon และ Nikon
       - ใช้กับกล้องที่มีเซนเซอร์ขนาด APS-C
 

   
รูปทรงและการออกแบบเลนส์
 
 
   
      ครั้งแรกที่ได้จับ Tokina AT-X Pro SD 12-24mm F4 (IF) DX II น้ำหนักตัวของเลนส์ทำให้เรามั่นใจได้ในคุณภาพของการผลิตและประกอบที่ดีที่สุด แปลนเมาท์และโครงสร้างภายในทำด้วยโลหะ ตัวกระบอกเลนส์ภายนอกทำด้วยโพลีคาร์บอเนต ระบบการโฟกัสและซูมเป็นแบบ Internal หน้าเลนส์จึงไม่หมุนหรือเคลื่อนที่เข้าออกยิ่งทำให้มีความรู้สึกว่าเลนส์แข็งแรงแน่นหนามากยิ่งขึ้นเมื่อไม่มีชิ้นส่วนขยับ และด้วยระบบ Focus Clutch System จะช่วยให้การเปลี่ยนระบบโฟกัสจากออโต้โฟกัสเป็นแมนนวลโฟกัสทำได้อย่างง่ายดาย
   
เมื่ออยู่บนตัวกล้อง
 
 

   

     เลนส์ Tokina AT-X Pro SD 12-24mm F4 (IF) DX II มีขนาดที่ใหญ่ น้ำหนักพอตัว แต่เมื่อใช้กับกล้องรุ่นกลางๆ ถึงรุ่นใหญ่จะให้น้ำหนักบาลานซ์ได้ดี สำหรับกล้องตัวเล็กน้ำหนักของเลนส์ก็ไม่ได้สร้างปัญหาใดๆ ตำแหน่งของวงแหวนซูมจะอยู่ในตำแหน่งที่พอดีมือมาก ส่วนวงแหวนโฟกัสจะอยู่ถัดไปข้างหน้า ข้อควรระวังสำหรับเลนส์ตัวนี้คือการใช้แฟลชที่มากับตัวกล้อง ช่วงมุมกว้างสุดของเลนส์ตัวนี้จะเทียบเท่ากับ 18mm ซึ่งแสงของแฟลชที่มากับตัวกล้องไม่สามารถคลอบคลุมถึงบริเวณขอบภาพ และยิ่งไปกว่านั้นจะเกิดเงาของเลนส์และฮูดบนส่วนล่างของภาพด้วย แต่ก็เป็นปัญหาปกติสำหรับเลนส์ซูมไวด์ทุกตัวอยู่แล้ว ถ้าต้องการจะใช้แฟลชกับเลนส์ซูมมุมกว้างก็ควรที่จะต้องซื้อแฟลชเพิ่ม (External Flash) เพื่อเลี่ยงปัญหาดังกล่าว

   
ส่วนต่างๆของตัวเลนส์
 
 
   
      เลนส์ Tokina AT-X Pro SD 12-24mm F4 (IF) DX II จะมีมอเตอร์โฟกัสในตัวเลนส์ทำให้ใช้ได้กับกล้อง Nikon ทุกรุ่น เลนส์รุ่นนี้ใช้ฟิลเตอร์ขนาด 77mm จุดเด่นของการที่หน้าเลนส์ไม่หมุนเมื่อโฟกัสทำให้ใช้ฟิลเตอร์ C-PL หรือ Graduateได้สะดวก แต่สิ่งที่ควรระวังก็คือฟิลเตอร์ C-PL ที่ใช้ควรจะเป็นรุ่นขอบบางเพราะช่วงทางยาวโฟกัสกว้างสุดที่ 12mm ภาพที่ออกมาอาจติดขอบฟิลเตอร์ได้ 
   
   

   ฮู้ดทรงกลีบดอกไม้ขนาดใหญ่ที่ให้มาทำจากโพลีคาร์บอเนตสีดำแข็งแรงแน่นหนา ด้านในเป็นเนื้อผ้าสักหลาดช่วยลดแสงสะท้อนจากหน้าเลนส์ และมีสัญลักษณ์จุดสีขาวบริเวณเมาท์สำหรับเป็นจุดสังเกตุเวลาหมุนเลนส์เข้ากับกล้อง

   
   
    วงแหวนซูมมีขนาด 14 มิลลิเมตร แม้จะดูว่ามีขนาดเล็กแต่สามารถหมุนได้อย่างราบรื่นมากไม่ติดขัดไม่ลื่นหรือฝืดเกินไปและยังแม่นยำมากอีกด้วย เนื่องจากมีการเซาะร่องยางให้ง่ายต่อการสัมผัส การหมุนวงแหวนซูมจากช่วง 12mm ไปถึง 24mm มีระยะหมุน 60 องศาตามเข็มนาฬิกาแบบเดียวกับเลนส์ Nikon โดยไม่ทำให้หน้าเลนส์ยื่นยาวออกมา
   
   
    สำหรับวงแหวนโฟกัสมีขนาด 18mm องศาการหมุนจากขวาสุดที่ระยะอินฟินิตี้มาจนถึงซ้ายสุดที่ระยะ 0.3 เมตร มีระยะ 90 องศา ความ smooth และแม่นยำของวงแหวนโฟกัสทำได้ยอดเยี่ยม ทำให้เวลาเลือกโฟกัสแบบแมนนวลทำได้แม่นยำเช่นกัน การเปลี่ยนจากระบบออโต้โฟกัสมาเป็นแมนนวลโฟกัสทำได้โดยเพียงแค่ดึงวงแหวนโฟกัสเข้าหาตัว ข้อดีอีกอย่างของระบบนี้ก็คือวงแหวนโฟกัสจะไม่หมุนตอนที่ใช้ระบบโฟกัสแบบออโต้โฟกัส สิ่งที่ควรต้องระวังเมื่อเลื่อนวงแหวนโฟกัสเข้าหาตัวเพื่อเปลี่ยนระบบโฟกัสจากออโต้โฟกัสมาเป็นแมนนวลโฟกัสคือระยะโฟกัสอาจเคลื่อนเล็กน้อยเป็นบางครั้งต้องเช็คโฟกัสให้ดี
   
   
ผลการทดสอบในสตูดิโอ   

เลนส์ Tokina AT-X Pro SD 12-24mm F4 (IF) DX II มีผลทดสอบในสตูดิโอที่น่าทึ่งมาก มีคุณภาพภาพน่าประทับใจทุกช่วงซูม
   
SHARPNESS - เรื่องความคมชัดของภาพจากเลนส์ Tokina AT-X Pro SD 12-24mm F4 (IF) DX II ทำได้ในระดับดีมากในบรรดาเลนส์ประเภท ultrawide zoom แม้กระทั่งในช่วงรูรับแสงกว้างสุดความคมชัดของภาพก็อยู่ในระดับคมชัดมาก และดีขึ้นอีกเล็กน้อยช่วง F5.6-F8 ที่ช่วง 24mm F4 - F5.6 ความคมชัดของภาพจะลดลงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และช่วง 12mm บริเวณมุมภาพจะซอฟท์ลงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรในการใช้งานจริง และเช่นเดียวกันกับเลนส์อื่นๆที่ใช้กับกล้องที่มีเซนเซอร์ขนาด APS-C ควรจะหลีกเลี่ยงรูรับแสงที่แคบกว่า F16
   

CHROMATIC ABERRATION - อาการขอบม่วงมีให้เห็นอยู่พอสมควรแต่ลักษณะที่เกิดจะค่อนข้างซับซ้อน โดยที่บริเวณกลางภาพอาการขอบม่วงจะเป็นสีฟ้าอมเหลือง ส่วนบริเวณมุมภาพจะเป็นสีเขียวอมมาเจนต้า(สีแดงอมม่วง) และเมื่อปรับรูรับแสงให้แคบลงอาการขอบม่วงบริเวณกลางภาพจะเปลี่ยนสีไปเป็นแดงอมเขียว ขนาดของขอบม่วงจะกว้างสุดที่ช่วง 12mm และจะเล็กลงมากที่ช่วงแคบลง ด้วยลักษณะที่ซับซ้อนของอาการขอบม่วงนี้ทำให้การแก้ไขให้ได้ร้อยเปอร์เซ็นด้วยซอฟแวร์ทำได้ค่อนข้างยาก

   
FALLOFF - ครั้งนี้เราจะตัดสินว่ามีขอบมืดก็ต่อเมื่อความสว่างที่มุมลดลงมากกว่าหนึ่งสต็อปจากความสว่างบริเวณกลางภาพ โดยเลนส์Tokina AT-X Pro SD 12-24mm F4 (IF) DX II ตัวนี้มีอาการขอบมืดเล็กน้อย (1.3 stops) ที่ช่วง 12mm F4 และจะหายไปที่ F5.6
   
DISTORTION - การบิดเบี้ยวของภาพอยู่ในระดับเล็กน้อยที่ช่วง 12mm (1.7% barrel) แต่ก็สามารถแก้ได้แบบง่ายๆโดยใช้ Lens Correction filter ของ Photoshop
   
   
Colour Balance
 
Nikon 50mm F1.4D (188, 188, 188)
Nikon 50mm F1.4D (188, 188, 188)
Tokina 12-24mm F4 (184, 183, 183)
Tokina 12-24mm F4 (184, 183, 183)
 


     ในบรรดาผู้ผลิตเลนส์อิสระมักจะมีปัญหาเรื่องของสีที่เพี้ยนไปบ้าง ในการทดสอบครั้งนี้เราใช้ Expodisc White Balance (อุปกรณ์ปรับตั้งค่า White Balance) ครอบหน้าเลนส์แล้ววัดแสงไปที่ผนังสีขาวและเปรียบเทียบกันระหว่างเลนส์ Nikon AF-Nikkor 50mm F1.4D และเลนส์ Tokina AT-X Pro SD 12-24mm F4 (IF) DX II ผลที่ออกมาพบว่าเลนส์เลนส์ Tokina ไม่พบอาการสีเพี้ยน

   
   
การทดสอบจากการใช้งาน

     หลังจากการทดสอบในสตูดิโอเราก็จะทำการทดสอบด้วยการออกมาถ่ายภาพสถานที่จริงเพื่อดูว่าผลการทดสอบจากการใช้งานจริงกับผลการทดสอบจากในสตูดิโอเป็นไปในทางเดียวกันหรือไม่ ซึ่งผลการทดสอบปรากฎว่าเลนส์ Tokina AT-X Pro SD 12-24mm F4 (IF) DX II ที่มีการพัฒนาเรื่องการเคลือบผิวเลนส์ของรุ่นนี้ใช้งานโดยรวมได้ดีมาก

Flared

       การคุมแสงแฟลร์เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเลนส์ Ultrawide เนื่องด้วยมุมที่กว้างมากจึงเป็นการง่ายที่แสงจากธรรมชาติสามารถส่องมารบกวนในภาพได้ง่าย ยิ่งวันที่แดดจัดๆแบบวันที่นำเลนส์ไปทดสอบมีโอกาสเกิดแสงแฟลร์ได้ง่าย ลักษณะของแสงแฟลร์จะเป็นวงกลมสีส้มที่มุมของภาพจะอยู่ตรงข้ามกับแหล่งกำเนิดแสง มีโอกาสพบได้ในช่วง 12mm F4 ถึง F11 จากภาพที่สอง แสงแฟลร์จะเกิดขึ้นทั้งสองมุม ถ้าลดรูรับแสงให้แคบกว่า F11 แสงแฟลร์ที่มุมภาพก็จะหายไป แต่จะเกิดแสงแฟลร์อีกลักษณะหนึ่งเกิดขึ้นในลักษณะทะแยงมุมจากแหล่งกำเนิดแสง เมื่อซูมอีกเล็กน้อยแสงแฟลร์นี้ก็จะหายไปสังเกตุเห็นผ่านช่องมองภาพได้ง่ายจึงสะดวกต่อการป้องกันอาการดังกล่าว
 
   


   

CHROMATIC ABERRATION

      เลนส์ Tokina AT-X Pro SD 12-24mm F4 (IF) DX II มีโอกาสเกิดอาการขอบม่วงอันเป็นเรื่องปกติของเลนส์ในกลุ่ม UltraWide Zoom ซึ่งมักจะเกิดขึ้นที่ช่วง 12mm ที่บริเวณมุมภาพ สีของอาการขอบม่วงอาจต่างกันไปในแต่ละตำแหน่งของภาพ ขึ้นอยู่กับขนาดของรูรับแสงและช่วงซูม แต่ก็สามารถใช้ซอฟท์แวร์ตกแต่งภาพแก้ไขเรื่องดังกล่าวได้
 

Nikon D300, RAW + ACR 12mm F4
 
ครอป 100% มุมบนด้านซ้าย ครอป 100% ด้านบนบริเวณกึ่งกลางภาพ
   

Nikon D300, RAW + ACR, 12mm F8
 

ครอป 100% มุมบนด้านซ้าย
ครอป 100% ด้านบนบริเวณกึ่งกลางภาพ
   
   
สรุปภาพรวม  
    

Focal Lenght 12mm, 1/400s F8 ISO200 WB Sunny, Nikon D300, Toshiya Ogawa
 
   

    Tokina AT-X Pro SD 12-24mm F4 (IF) DX II เลนส์ตัวนี้ถ่ายทอดความคมชัดได้ดีมากแม้ตอนที่เปิดรูรับแสงกว้างสุดที่ F4 นอกจากนั้นยังทำได้ดีในการแสดงผลอาการขอบมืดและอาการบิดเบี้ยวของภาพที่มีโอกาสพบได้ในเลนส์กลุ่มนี้ ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้และรูรับแสงที่กว้างสุด f4ตลอดทุกช่วงซูม ทำให้เป็นเลนส์ที่ใช้ถ่ายภาพในสถานการณ์ที่มีแสงน้อยและถ่ายภาพสถาปัตยกรรมภายในได้ดี การออกแบบและการประกอบแน่นหนาแข็งแรงทนทานดีมาก วงแหวนซูมและวงแหวนโฟกัสที่หมุนได้อย่างราบรื่นน่าประทับใจ รวมถึงการเปลี่ยนระบบโฟกัสที่ทำได้สะดวกมากด้วยระบบ Focus Clutch

   

Focal Lenght 12mm, 1/100s F11 ISO100 WB Auto, Nikon D300, Toshiya Ogawa
   
     แน่นอนว่าไม่มีเลนส์ตัวไหนในโลกจะสมบูรณ์แบบในทุกเรื่อง เลนส์รุ่นนี้จะมีความคมชัดลดลงเมื่อถ่ายที่ช่วง 24mm และรูรับแสงกว้างกว่า F8 แต่ส่วนใหญ่การใช้งานเลนส์มุมกว้างก็จะใช้อยู่ในช่วง 12-18mm จึงไม่ค่อยมีผลกระทบเท่าไหร่ ในส่วนของอาการขอบม่วงขนาดของอาการที่เกิดขึ้นก็ไม่ต่างจากเลนส์ตัวอื่นในกลุ่ม แต่การแก้อาการขอบม่วงด้วยซอฟท์แวร์ตกแต่งภาพอาจต้องใช้เวลามากกว่าปกติเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาอย่างสวยงามตามต้องการ
   

Focal Lenght 15mm, 1/5s F7.1 ISO200 WB Auto, Nikon D300, Toshiya Ogawa
   
     สรุป ในบรรดาเลนส์ซูมมุมกว้างนอกจากเลนส์ของแบรนด์ผู้ผลิตกล้อง Tokina AT-X Pro SD 12-24mm F4 (IF) DX II ให้คุณภาพที่ดีเยี่ยม แต่จะมีช่วงทางยาวโฟกัสกว้างสุดอยู่ที่ 12mm ในขณะที่เลนส์ตัวอื่นมีช่วงทางยาวโฟกัสอยู่ที่ 10mm โดย 2mm ที่มากกว่าทำให้มุมมองแคบลงประมาณ 10 องศา ดังนั้นการตัดสินใจซื้อคงต้องถามตัวเองว่าจะยอมแลกมุมมองที่แคบลง 10องศา แล้วได้ภาพที่มีคุณภาพดีเยี่ยมและรูรับแสงกว้างสุดที่ F4 ตลอดทุกช่วงซูมหรือเปล่า ถ้าต้องการภาพที่มีความคมชัดในระดับดีเยี่ยมเลนส์ Tokina AT-X Pro SD 12-24mm F4 (IF) DX II  ก็เป็นคำตอบที่ใช่แน่นอน
   
   
ภาพที่ถ่ายจากเลนส์ Tokina AT-X Pro SD 12-24mm F4 (IF) DX II
    

Focal Lenght 12mm, 1/500s F8 ISO250 WB Auto, Nikon D300, Toshiya Ogawa
   

Focal Lenght 15mm, 1/1.6s F5.6 ISO640 WB Auto, Nikon D300, Toshiya Ogawa
   

Focal Lenght 12mm, 1/25s F10 ISO100 WB Cloudy Nikon D2x, Toshiya Ogawa
   

Focal Lenght 12mm, 30s F4 ISO2000 WB Auto Nikon D300, Toshiya Ogawa
   

Focal Lenght 24mm, 1/500s F8 ISO800 WB Auto Nikon D300, Toshiya Ogawa
   

Focal Lenght 12mm, 1/250s F13 ISO800 WB Auto Nikon D300, Toshiya Ogawa
   

Focal Lenght 17mm, 1/640s F7.1 ISO160 WB Auto Nikon D2x, Toshiya Ogawa
   
 
ภาพและบทความจาก : DPReview , Kenko-Tokina
 
 
Back to top