FUJIFILM X-T2…ชัด เร็ว แรง สายพันธุ์โปร

By - November 29, 2016 6391

Fujifilm X-T2, Fujinon 18-55mm f2.8-4 R OIS, f 6.4, 1/13000s, ISO1600, AWB, Focal Length 35mm,Mode AV

ปีนี้ FUJIFILM ออกกล้องระดับ FLAGSHIP อย่างต่อเนื่อง

เพื่อตอบสนองความต้องการนักถ่ายภาพระดับมืออาชีพอย่างแท้จริง

หน้าตาดูไม่แตกต่างจากเดิมแต่ด้านในพัฒนามาทุกรายละเอียด

ทำให้ถูกจับตามองจากสื่อทุกสำนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่แบรนด์อื่นต้องสะเทือน

Fujifilm ออกแบบนวัตกรรมใหม่ให้โลกของการถ่ายภาพได้ตื่นตัวอย่างต่อเนื่องในกล้องทุกไลน์การผลิตของตระกูลX-Series ซึ่งการันตีเรื่องคุณภาพของไฟล์ภาพจนเป็นที่ยอมรับในหมู่นักถ่ายภาพทุกระดับ เพราะกล้องแต่ละรุ่นที่ออกมามีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนด้วยรูปลักษณ์เรโทรสไตล์จนปลุกกระแสกล้องแนวที่อิงการออกแบบจากกล้องสมัยฟิล์มให้ฮิตทั่วโลกไม่ว่าแบรนด์ใดก็เกาะกระแสนี้

Fujifilm X-T2 กล้องระดับโปรรูปทรง SLR ที่ออกแบบพัฒนาเป็นรุ่นที่ 2 ทดแทนรุ่น X-T1 ที่เปิดตัวเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งภายนอกมองผ่านๆดูไม่แตกต่างอะไรมากนักแต่เมื่อได้สัมผัสตัวจริงจะรับรู้ได้ถึงการออกแบบที่รวบรวมถ่ายทอดความต้องการของนักถ่ายภาพทั่วโลกจากการพูดคุยได้ลงมาสัมผัสกับคนใช้งานจริงจึงมีความเข้าใจลักษณะการใช้งานในวิถีที่ทางทีมออกแบบของฟูจิฟิล์มได้พัฒนา โดยเฉพาะเรื่องระบบโฟกัสที่มีการพูดถึงเป็นอย่างมากกับช่องว่างที่รอการเติมเต็มสำหรับช่างภาพกีฬา หรือช่างภาพแนวแอ็คชั่นที่ยังไม่นิยมเลือกใช้กล้องมิลเลอร์เลส ทั้งที่จริงอยากเปลี่ยนใจจะขาดเพราะหลังพังกันเป็นแถบจากการแบกอุปกรณ์สุดท้ายเงินที่หามาขนไปให้คุณหมอหมด...

Fujifilm X-T2 ออกแบบสันกริปให้กว้างกว่าเดิมและซ่องร่องด้านหลังวางนิ้วโป้งเพื่อการจับกล้องที่กระชับเข้ามือมากยิ่งขึ้นแม้จะไม่ใส่สายคล้องกล้องก็ไม่กังวลจะหลุดมือ ด้านข้างใต้อุ้งมือจะมีบานพับสำหรับใส่เมมโมรี่การ์ดที่ออกแบบได้สวยงามพร้อมช่องใส่แบบ Dual SD Card Slot รองรับการทำงานแบบมืออาชีพด้วยการจัดเก็บไฟล์ 3 รูปแบบ ได้แก่ ตั้งค่าบันทึกแบบต่อเนื่องเมื่อช่องแรกเต็มจะบันทึกช่องที่สองอัตโนติ, บันทึกภาพพร้อมกันทั้งสองช่อง และตั้งค่าให้แยกบันทึกภาพนิ่งกับภาพวิดีโอ ด้วยการ์ดความเร็วสูงระดับ UHS II ทั้งสองช่อง นอกจากนี้ยังสามารถสั่งก๊อปปี้ไฟล์จากการ์ดหนึ่งไปการ์ดหนึ่งได้ในตัว ส่วนด้านล่างเป็นช่องใส่แบตเตอรี่รุ่นใหม่ NP-W126S มีขนาดเท่าเดิมแต่จ่ายพลังงานได้มากขึ้นซึ่งเป็นข้อดีของ Mirrorless ตระกูล X ที่แม้ว่าจะซื้อบอดี้ใหม่แต่อุปกรณ์เดิมที่มีอยู่ยังคงใช้ร่วมกันได้ทั้งหมด

Fujifilm X-T2 เลือกโลหะแมกนีเซียมอัลลอยด์ขึ้นรูปทั้งตัวทำให้ความทนทาน ความแข็งแกร่งเป็นไปตามมาตรฐานกล้องระดับมืออาชีพรวมถึงการซีลป้องกันละอองฝุ่น ละอองน้ำตามรอยต่อถึง 63 จุด ทนความเย็นได้ระดับ -10 องศาเซสเซียส ไฮไลท์ที่เป็นข่าวสะท้านวงการตั้งแต่มีข่าวหลุดก็คงเป็นจอแสดงผลขนาด 3 นิ้วที่พลิกแกนได้ไม่มีใครเหมือนเป็น 3 แกนที่เอาใจการถ่ายภาพแนวตั้ง เวลาจะพลิกแกนขึ้นแนวตั้งต้องผลักสวิทช์ด้านข้างจอลงพร้อมกับดึงจอขึ้น จอ LCD นี้มีความละเอียด 1.04 ล้านจุดป้องกันรอยขีดข่วน(แต่ถึงอย่าไรความรักของ เวลาซื้อแล้วก็ยังต้องติดแผ่นกันรอยอยู่ดี...555) การพลิกจอแนวตั้งได้นั้นสะดวกในการถ่ายมุมต่ำและมุมสูงที่ต้องการตรวจสอบมุมภาพหรือเลือกเมนูเป็นอย่างยิ่ง ในเมนูสามารถปรับเลือกความสว่างแบบอัตโนมัติหรือเลือกปรับให้สว่างขึ้นหรือมืดลงได้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเพราะบางท่านชอบปรับให้เหมือนกับการดูในคอมพิวเตอร์ หรือเผื่อให้เข้มไว้ก่อนเพื่อเก็บรายละเอียดของภาพแล้วค่อยไปดึงขึ้นภายหลังในขั้นตอนตกแต่งภาพไม่ว่าจะในสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์

Fujifilm X-T2 คงการปรับควบคุมให้เข้าถึงง่ายด้วยรูปแบบเรโทรที่ออกแบบแป้นใหญ่ด้านขวาให้คอยควบคุมความเร็วชัตเตอร์ ฐานแป้นจะมีระบบวัดแสง TTL 256 โซนให้เลือก 4 แบบ คือระบบวัดแสงเฉพาะส่วน, ระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ, ระบบวัดแสงเฉลี่ยหนักกลาง และระบบวัดแสงเฉพาะจุด ตรงกลางจะมีปุ่มกดขึ้น-ลงเพื่อล็อกค่าความเร็วชัตเตอร์ไม่ให้แป้นหมุนโดยไม่ตั้งใจ อาทิหยิบเข้า-ออกจากกระเป๋า ถัดไปเป็นแป้นชดเชยแสงทำได้+/-3สตอป แต่ที่พิเศษคือมีตำแหน่ง C คุณจะสามารถปรับได้ถึง+/-5สตอปที่ Dial โดยโหมดที่ปรับชดเชยแสงได้จะมี P, A, S, M คุณอ่านไม่ผิดหรอกโหมด M ก็ชดเชยแสงได้ด้วยเพียงตั้งค่า ISO เป็น Auto เหลืออีกสองปุ่มคือ ปุ่มชัตเตอร์ยังคงเสน่ห์ด้วยเกลียวสำหรับสายลั่นชัตเตอร์แบบแมนนวล สุดท้ายปุ่ม Fn (Function) สำหรับการเลือกปรับตั้งค่าที่ใช้เป็นประจำให้เข้าถึงรวดเร็วว่องไว อีกด้านเป็นแป้นปรับค่าความไวแสง (ISO) ที่ฐานแป้นจะมีโหมดถ่ายภาพพาโนรามา, โหมด Advanced Filter, โหมดถ่ายภาพซ้อน, โหมดถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ CL(Continuous Low) กับแบบ CH(Continuous High), โหมดถ่ายภาพคร่อม และโหมดถ่ายภาพวิดีโอ ดังนั้นการคอนโทรลโหมดถ่ายภาพหลักๆที่มักต้องปรับตั้งค่าสลับไปมาไม่ต้องไปคลำหาในเมนูให้เสียเวลาและไม่ละสายตาพลาดจากเป้าหมายแน่นอนถ้าทำความคุ้นเคยเข้าใจเพื่อนใหม่ก่อนหยิบออกไปใช้งานจริงจัง

Fujifilm X-T2 สะดวกสบายในการปรับเลื่อนจุดโฟกัสทั้ง 91 จุดด้วยจอยสติ๊ก (Focus Selector) ที่ดูแข็งแรงตำแหน่งปรับวางด้วยนิ้วโป้งมีความลงตัวจุดโฟกัสเพิ่มได้ถึง 325 จุดจะเลือกดูผ่านจอ LCD หรือช่องมองภาพแบบ EVF(Electronic Viewfinder) ด้วยความสบายตาด้วยอัตราขยายเพิ่มขึ้นเป็น 0.77 เท่าให้ความละเอียด 2.36 ล้านจุด มี Time lag เพียง 0.005วิ นาทีเท่านั้น ยังไม่พอช่องมองรุ่นนี้เพิ่มความสว่างถึง 2 เท่ามีฟีเจอร์ปรับสว่างอัตโนมัติตามสภาพแสงแม้แต่การถ่ายภาพย้อนแสง และที่โดดเด่นสุดๆ คือ Refresh rate ของช่องมองสามารถเพิ่มขึ้นจาก 60fps เป็น 100 fps เมื่อติดตั้ง Power Booster Grip ซึ่งเท่ากับภาพจะถูกมองเห็นต่อเนื่องทันเหตุการณ์เหมือนการมองผ่าน OVF ตอบสนองทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ที่กริปเสริมก็มีจอยสติ๊กควบคุมให้เช่นกัน กลับไปที่ช่องมองภาพประทับใจกับฟังก์ชั่นที่มีให้เลือกใช้หลายแบบเวลาถ่ายภาพแนวตั้งข้อมูลสามารถพลิกกลับแสดงค่าตามทันทีเรียกว่าพิเศษจริงๆ เป็นสิ่งเล็กๆ ที่ถูกพัฒนาอย่างเข้าใจอารมณ์คนถ่ายภาพ นอกจากนั้นยังปรับเลือกแบบคัสตอมตามความชอบหรือตามถนัด อยากให้ค่าอะไรแสดงหรือไม่แสดงเลือกเองเรียกว่าเป็นเจ้าของกล้องอย่างแท้จริง คนอื่นมาจับกล้องมีงงๆแน่นอน

Fujifilm X-T2 พัฒนาจุดเด่นที่นักถ่ายภาพมองว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับการนำไปถ่ายภาพแอ็คชั่นหรือถ่ายภาพเคลื่อนไหวให้โดดเด่นกว่าที่คาดการณ์ไว้ด้วยการขยายพื้นที่ครอบคลุมระบบเฟสดีเทคชั่น (Phase Detection) เพิ่มขึ้นราว 230% สามารถหาโฟกัสได้แม้แสงต่ำถึง-3EV มีการปรับค่าพารามิเตอร์ได้3รูปแบบ ได้แก่ Track Sensitivity เลือกความเร็วในการโฟกัสตอบสนองกับวัตถุเป้าหมายใหม่มีให้เลือกตั้งแต่ระดับ0-4ตำแหน่ง 0 กล้องจะเปลี่ยนการโฟกัสไปที่ซับเจกต์ใหม่ทันที หากซับเจกต์ใหม่เคลื่อนเข้ามาบังซับเจกต์หลัก ที่ตำแหน่ง 1 ไปจนถึง 4 การแทรคโฟกัสเข้าหาซับเจกต์ใหม่จะช้าลง โดยที่ตำแหน่ง 4 กล้องจะยังคงล็อกโฟกัสอยู่ที่ซับเจกต์หลักชั่วขณะจึงจะโฟกัสไปยังซับเจกต์ใหม่ ผู้ใช้ต้องเลือกให้เหมาะกับรูปแบบของภาพที่ถ่าย การเลือกผิดพลาดอาจทำให้กล้องโฟกัสผิดตำแหน่งได้, Speed Tracking Sensitivity เป็นการเลือกความเร็วให้เหมาะสมกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ เช่น 0 เมื่อวัตถุมีความเร็วคงที่ และ1-2เมื่อวัตถุความเร็วมีความเร็วเปลี่ยนแปลงกล้องจะคาดคะเนตำแหน่งโฟกัสล่วงหน้า อีกหนึ่งรูปแบบคือZone Area Switching เราต้องเลือกระบบโฟกัสไปเป็นแบบ Zone AFก่อนแล้วเลือกระบบย่อยเป็นCenter,AutoหรือFront(CENTER กล้องเน้นการโฟกัสที่ตำแหน่งกลางของโซนเป็นหลัก, AUTO กล้องจะแทรคตามวัตถุแรกที่คุณโฟกัสด้วยจุดโฟกัสภายในโซนนั้น และ FRONT เพื่อให้ระบบโฟกัสเลือกการโฟกัสที่ส่วนหน้าสุดภายในโซนเมื่อวัตถุหลักเคลื่อนออกไปนอกพื้นที่โฟกัส) ท่านที่ยังสับสนกล้องจะมี SET 1 ถึง SET 5 ให้เลือกใช้โดยไม่ต้องปรับอะไรเลยเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานของช่างภาพที่เซ็ทอัพไม่เป็น โดยดูลักษณะภาพที่เหมาะสมจากภาพบนหน้าจอได้เลย

SET 1 เป็นการถ่ายภาพเคลื่อนไหวทั่วไปเหมาะกับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวที่วัตถุมีความเร็วคงที่ ไม่มีอะไรเคลื่อนมาบังเป้าหมายหลักบ่อยๆ เช่น การถ่ายภาพกรีฑา

SET 2 เหมาะกับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวที่เป้าหมายอาจหลุดออกนอกพื้นที่โฟกัสบ้างหรือมีวัตถุอื่นเคลื่อนเข้ามาบังเป้าหมายหลักชั่วขณะบ้าง กล้องจะล๊อกที่เป้าหมายหลักไม่ไปสับสนโฟกัสที่วัตถุอื่น เช่น การถ่ายภาพแอ็คชั่นของสัตว์

SET 3 ให้ผลดีกับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวที่วัตถุเป้าหมายเปลี่ยนความเร็วอยู่ตลอดเวลาเหมาะกับเลนส์ที่ใช้มอเตอร์แบบลิเนียร์(Linear Motor)ในการโฟกัสติดตามวัตถุเช่น การถ่ายภาพกัฬามอเตอร์สปอร์ต

SET 4 เหมาะกับการถ่ายภาพแอ็คชั่นที่เป้าหมายอาจหายไปจากเฟรมแล้วกลับมาปรากฏในช่องมองอย่างฉับพลันเมื่อเคลื่อนกล้องตามทัน กล้องจะโฟกัสไปยังเป้าหมายอย่างรวดเร็วแม่นยำ

SET 5 เหมาะกับการถ่ายภาพกีฬาหรือภาพแอ็คชั่นที่เป้าหมายเปลี่ยนความเร็วตลอดหรือเปลี่ยนทิศทางบ่อยๆจะเข้าและออกในพื้นที่โฟกัสอยู่ตลอดเวลา เช่นการถ่ายภาพกีฬาเทนนิส

Fujifilm X-T2 พัฒนาก้าวกระโดดหลังจากที่แฟนๆคาดหวังว่าจะมีระบบบันทึกภาพเคลื่อนไหววิดีโอ 4K ในรุ่น X-PRO2 แต่ทางฟูจิฟิล์มวางแผนไว้อย่างเงียบๆ ในการนำมาเปิดตัวกับรุ่นนี้ที่ออกแบบเพื่อการนำออกไปลุยจริงจังในสายอาชีพด้วยวามละเอียดสูงโดยกล้องมี bit rate สูงถึง 100 Mbps ให้รายละเอียดเยี่ยมยอด โดยแทบไม่มี moire สามารถบันทึกวิดีโอระดับ 4K (3840x2160) ในตัว แต่ถ้าต้องการคุณภาพสูงยังสามารถ ต่อกับเครื่องบันทึกภายนอกผ่านพอร์ต HDMI ในฟอร์แมต 4:2:2 ไร้การบีบอัดให้คุณภาพสูง และยังมีฟังก์ชั่น F-Log ที่จะขยายไดนามิคเรนจ์ให้กว้างกว่าปกติ(Log Gamma) จึงเก็บรายละเอียดได้ดีทั้งส่วนสว่างและส่วนมืด นอกจากนั้นยังสามารถใช้ร่วมกับ Film Simulation ต่างๆ ได้ ทำให้สามารถสร้างสรรค์งานให้ได้โทนสีตามต้องการโดยแทบไม่ต้องพึ่งพา Post-Production ภายหลัง

Fujifilm X-T2 คงเอกลักษณ์ในภาพด้วย Film Simulation ที่ให้มาครบถ้วนทั้งโทนภาพสี และขาวดำ สามารถเพิ่มเกรนได้ในฟังก์ชั่น Grain Effect เพื่อจำลองรายละเอียดเสน่ห์ความน่าสนใจที่เคยมีมาในสมัยฟิล์มอย่าง Acros จะเป็นโทนขาวดำให้รายละเอียดสูงไล่ระดับโทนนุ่มนวล สีดำมีความดำสนิทและคมชัด ย้อนกลับไปสรุปความเร็วในการเปิดเครื่องจนพร้อมบันทึกภาพเร็วมากเพียง 0.3 วินาทีเท่านั้น ส่วนช่วงเวลาระหว่างภาพ 0.17 วินาที มี Time–Lag ของชัตเตอร์ 0.045 วินาที ความเร็วในการแสดงภาพของช่องมอง EVF 100 fps ความเร็วของระบบโฟกัส 0.06 วินาที และความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุดที่ 8 ภาพ / วินาที ( 11 ภาพ / วินาที เมื่อใช้ร่วมกับแบตเตอรี่กริปในโหมด Boost และเมื่อใช้ชัตเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์จะมีความเร็วสูงถึง 14 ภาพ / วินาที)

Fujifilm X-T2 จะทำงานเต็มประสิทธิภาพถึงขีดสุดเมื่องานใช้ร่วมกับ Vertical Power Booster Grip(VPB-XT2) รองรับแบตเตอรี่จำนวน 2 ก้อน ตัวรังถ่านแข็งแรงดึงออกมาง่ายถ่ายภาพได้มากกว่า1,000 shot ความสามารถที่เพิ่มขึ้นของการทำงานแต่ละส่วนตามรายละเอียดที่แนะนำแล้วนั้นทำให้นักถ่ายภาพที่สนใจไม่น่าพลาดจัดไปคู่กันกับกล้อง เพื่อความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องจะทำได้ต่อเนื่องนานแค่ไหนโดยไม่สะดุดแนะนำว่าควรจัดเมมโมรี่การ์ดระดับ UHS II ใส่ไว้ทั้งสองช่องสมกับเจตนาของผู้ออกแบบ

Fujifilm X-T2 ให้ความคมชัดสูงจากเซ็นเซอร์ X-Trans CMOS III 24.3 ล้านพิกเซล แบบไม่มี Low Pass Filter จึงไม่ต้องแปลกใจในรายละเอียดที่ขยายขึ้นมาถ้าโฟกัสล็อกเป้าหมายแม่นยำภาพจะสวยงามสามารถนำไปอ้างอิงข้อมูลได้เลย จากภาพตัวอย่างทั้งดวงจันทร์ที่อยู่นิ่งในระยะไกล หรือแมลงปอที่เคลื่อนที่ไปเกาะกิ่งไม้ในระยะประชิดระบบโฟกัสทำงานได้อย่างว่องไว แม่นยำแสดงรายละเอียดในสิ่งที่เหนือสายตามนุษย์จะหยุดได้อย่างน่าทึ่งไม่ว่าวัตถุจะมีขนาดเล็ก หรือใหญ่ ยิ่งได้ช่วงเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสสูงก็ยิ่งทำให้อัตราขยายสูงขึ้นสามารถถ่ายภาพได้คุณภาพสูงนำไปพิมพ์ภาพใหญ่ได้สบายใจ การนำกล้องออกไปใช้งานแต่ละสภาพอากาศ หรือแต่ละสภาวะก็ไม่กังวลต่อบอดี้ว่าจะทนทานไหวหรือไม่เพราะมั่นใจในโครงสร้างและการซีลตามรอยต่อด้วยมาตรฐานของญี่ปุ่น (Made in Japan)

Fujifilm X-T2 ให้ความประทับใจเรื่องระบบโฟกัสที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษได้ดีมากอาการโฟกัสถอยหน้าถอยหลังมีบ้างแต่ส่วนใหญ่เกิดจากความยังไม่คุ้นกันระหว่างเรากับกล้องมากกว่าจึงเลือกระบบไม่ตรงกับสถานการณ์ที่ถูกเซ็ทค่ามาจากโรงงาน การทดสอบจึงเลือกไปที่วัตถุในที่แสงน้อย และการถ่ายภาพย้อนแสง ตลอดจนหาวัตถุเป้าหมายขนาดเล็กที่ท้าทายความสามารถว่าจะทำได้ดีขนาดไหน ซึ่งความว่าผ่านคงน้อยไปแต่ต้องบอกว่ามันทำได้เกินกว่าที่กล้อง Mirrorless ปัจจุบันทำได้ หรือแม้แต่กล้อง DSLR น้อยตัวนักที่จะทำได้ใกล้เคียง ต้องบอกเลยว่าก้าวนี้ของฟูจิฟิล์มเป็นก้าวที่มืออาชีพในสายงานภาพแอ็คชั่น และวิดีโอมั่นใจขึ้นเยอะในการตั้งงบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์ใหม่ไว้ในกระเป๋า...

BIGCamera ศูนย์รวมกล้องดิจิตอล ที่มีความสุขให้เลือกมากที่สุด ขอมอบสิ่งดีๆเสริฟถึงที่ด้วยสาระความรู้ ความสนุก สอดแทรกแง่คิดดีๆ อย่างนี้เป็นประจำ อยากรู้อยากสนุกกับการนำเสนอกล้องรุ่นใหม่ๆ ผ่านตัวหนังสือ และภาพถ่าย อย่าพลาด! ติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาความรู้ควบคู่กับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ไม่เคยหยุดนิ่งของโลกใบนี้ แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ครั้งต่อไป...สวัสดีครับ