Marco Grassi ช่างภาพ Landscape และ Travel Photography และ Brand Ambassador ของเว็บไซต์ 500px ได้แชร์ลิสต์ 17 สถานที่ที่เขาชื่นชอบและแนะว่า ถ้ามีโอกาสอยากให้ได้ไปลองสัมผัสกันดูสักครั้ง

1. El Chalten, Argentina

El Chalten คือชนบทเล็ก ๆ ในหุบเขาซึ่งอยู่ในรัฐ Santa Cruz ประเทศอาร์เจนตินา สภาพแวดล้อมของที่นี่มีทั้งทะเลสาบ แม่น้ำ และธารน้ำแข็ง ทำให้เป็นสวรรค์ของช่างภาพ Landscape ไม่แปลกใจที่ช่างภาพทั่วโลกจะมาเยือนที่นี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก

(รูปนี้ถ่ายกลางเดือนเมษายน ในฤดูใบไม้ร่วง)

2. Valensole, France

ใกล้ ๆ กับหมู่บ้าน Valensole ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส มีทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงตลอดแนวถนนไกลสุดลูกหูลูกตา มีทุ่งทานตะวันให้เห็นบ้างในบางครั้ง

 (รูปนี้ถ่ายต้นเดือนกรกฎาคม ในฤดูร้อน)

3. Milford Sound, New Zealand

นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่งดงามแห่งหนึ่ง และ Milford Sound ก็เป็นสถานที่ที่ห้ามพลาด ฟยอร์ดที่สวยชวนตะลึงนี้พบได้ทางตอนใต้ของประเทศนิวซีแลนด์ โดย Rudyard Kipling ได้ขนานนามว่าเป็นหนึ่งในแปดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

 (รูปนี้ถ่ายปลายเดือนมีนาคม เวลาน้ำลง)

4. Xingping, China

จีนยังคงเป็นประเทศที่คุ้มค่าต่อการไปเที่ยว เพราะมีพื้นที่ขนาดใหญ่และมีที่เที่ยวสวย ๆ หลายแห่ง โดยเฉพาะ Karst mountains ที่สวยงามใน Xingping เป็นที่ที่ควรไปเก็บภาพอย่างยิ่ง

 (รูปนี้ถ่ายต้นเดือนพฤศจิกายน ในฤดูใบไม้ร่วง)

5. Taranaki, New Zealand

ใครที่อยากถ่ายภาพเงาสะท้อนของภูเขาบนผิวน้ำสวย ๆ ต้องลองไปที่ภูเขา Taranaki เป็นสถานที่ที่ค่อนข้างท้าทายหน่อยเมื่อไปถึง เพราะภูเขาขี้อายนี้มักมีกลุ่มเมฆปกคลุมแทบตลอดเวลา

(รูปนี้ถ่ายปลายเดือนมกราคม ในฤดูร้อน) 

การไปภูเขา Taranaki ต้องใช้เวลาเดินไปกลับร่วม 5 ชั่วโมง ควรเผื่อเวลาไว้ทั้งวันสำหรับโปรแกรมถ่ายภาพที่นี้ และมีสถานที่อีกแห่งที่ควรแวะถ่ายภาพคือ Cape Egmont Lighthouse

6. Dolomites, Italy

หากพูดถึงภูเขาที่สวยงาม ต้องมี Dolomites รวมอยู่แน่นอน ช่วงเวลาดีที่สุดในการถ่ายภาพคือช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศไม่เย็นเกินไป และจะได้ภาพที่มีโทนสีสันสวยงาม มีทั้งหลือง ส้ม และแดง

(รูปนี้ถ่ายต้นเดือนพฤศจิกายน ในฤดูใบไม้ร่วง) 

ไปที่ Dolomites แล้วอย่าลืมแวะไปที่ภูเขา Tre Cime di Lavaredo

7. Antelope Canyon, USA

Antelope Canyon ตั้งอยู่ในรัฐ Arizona ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็น Slot Canyon ที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ เพราะรูปร่างและสีทำให้ได้ภาพถ่ายหลากหลายแบบ นอกเหนือจาก Grand Canyon

(รูปนี้ถ่ายต้นเดือนมิถุนายน ในฤดูร้อน) 

8. Wharariki Beach, New Zealand

Wharariki ชายหาดแห่งหนึ่งทางเหนือในเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ มีเนินทรายที่โดดเด่นอยู่ ทำให้องค์ประกอบในภาพดูน่าสนใจ และถ่ายภาพออกมาได้อย่างสวยงาม

(รูปนี้ถ่ายกลางเดือนเมษายน ตอนน้ำลง)

9. Cinque Terre, Italy

หมู่บ้านบนผาที่งดงามในชายฝั่ง Riviera ประเทศอิตาลี ซึ่ง Cinque Terre ในภาษาอิตาลี แปลว่า ห้าแผ่นดิน แต่ในที่นี้หมายถึงหมู่บ้านทั้ง 5 นั่นคือ Riomaggiore, Manarola,
(ภาพด้านล่าง) Corniglia, Vernazza และ Monterosso ที่นี่มีนักท่องเที่ยวไปเยอะมาก จึงควรไปในช่วง low season และหลีกเลี่ยงช่วงฤดูร้อน

(รูปนี้ถ่ายต้นเดือนธันวาคม ในฤดูหนาว) 

หรือไปแล้วไม่อยากเจอนักท่องเที่ยวเยอะ ๆ ใกล้กันนั้นมีหมู่บ้านเล็ก ๆ ซึ่งไม่ค่อยมีคนรู้จัก ชื่อว่า Tellaro ที่อยู่บนหน้าผาเหมือนกัน

(รูปนี้ถ่ายกลางเดือนพฤศจิกายน ในฤดูใบไม้ร่วง) 

10. Mt. Cook, New Zealand

Mt. Cook เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ สถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับช่างภาพแนว Landscape

(รูปนี้ถ่ายกลางเดือนมีนาคม ในฤดูใบไม้ร่วง) 

11. White Pocket, Arizona, USA

แม้ White Pocket แห่งนี้จะไม่ได้โด่งดังเท่า Antelope Canyon และ Horseshoe Bend ในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่คุ้มค่าที่จะไปเพราะมีภูเขาหินสวย ๆ ด้วยริ้วลายหลากสีสัน ขาว เหลือง แดง ส้ม และชมพู อีกทั้งมีแอ่งน้ำที่สะท้อนเงาดวงดาวบนท้องฟ้าด้วย ทำให้เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดอีกแห่งหนึ่ง

(รูปนี้ถ่ายปลายเดือนพฤศจิกายน ปลายฤดูไม้ใบผลิ) 

12. Great Wall , China

รู้จักกันดีในชื่อกำแพงเมืองจีน เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก กำแพงเมืองจีนมีระยะทางยาวมาก ดังนั้นจึงมีหลายจุดให้เราได้ไปเก็บภาพกัน ภาพถ่ายด้านล่างมาจากบริเวณ Jinshanling หนึ่งในบริเวณที่ดีที่สุด อย่าพลาดถ่ายเวลาที่มีแสงเรืองรองตอนดวงอาทิตย์ขึ้นละ

(รูปนี้ถ่ายกลางเดือนกันยายน ปลายฤดูร้อน) 

13. The Old Man of Storr, Scotland

Isle of Skye เป็นเกาะที่สวยงามที่สุดในประเทศสกอตแลนด์สำหรับเหล่าช่างภาพ
ซึ่ง the Old Man of Storr เป็นหนึ่งในสถานที่ที่อยู่บนเกาะที่มียอดหินแหลมสูงเสียดฟ้า มองเห็นได้จากระยะหลายกิโลเมตร ส่วนวิวทิวทัศน์ที่มองจากด้านบนก็สวยงามน่าทึ่งมากทีเดียว

(รูปนี้ถ่ายปลายเดือนตุลาคม ในฤดูใบไม้ร่วง) 

แต่ระหว่างทางไป Isle of Skye แวะพักได้ที่ Glenfinnan Viaduct มีโอกาสถ่ายภาพขบวนรถไฟที่มีชื่อเสียง ซึ่งสาวก Harry Potter ห้ามพลาดสถานที่นี้เลย

(รูปนี้ถ่ายปลายเดือนตุลาคม ในฤดูใบไม้ร่วง) 

14. Gasadalur, Faroe Islands

หมู่บ้านเล็กๆ Gasadalur ในหมู่เกาะ Faroe ไฮไลท์ของที่นี่คือมีน้ำตกไหลลงจากหน้าผาสูง เป็นหนึ่งในสถานที่อันน่าทึ่ง

(รูปนี้ถ่ายต้นเดือนสิงหาคม ในฤดูร้อน) 

15. Tuscany, Italy

Tuscany เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเนินเขาเขียวชอุ่มที่ไม่มีวันสิ้นสุด สามารถดื่มด่ำกับวิวชนบทได้ที่ Val D’Orcia ได้

(รูปนี้ถ่ายกลางเดือนพฤษภาคม ในฤดูใบไม้ผลิ) 

16. Wanaka, New Zealand

ต้นไม้โดดเดี่ยวที่เติบโตอยู่ในทะเลสาบ Wanaka ประเทศนิวซีแลนด์ ทำให้ภาพถ่ายที่ได้มาเหมือนอยู่ในความฝัน

(รูปนี้ถ่ายปลายเดือนมีนาคม ในฤดูใบไม้ร่วง) 

17. Torres Del Paine, Chile

ไม่มีภูเขาไหนจะมหัศจรรย์เท่า Torres del Paine ในประเทศชิลี ภูเขานี้มีรูปร่างและสีสันที่ทำให้ตัวมันเองเป็นองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบที่สุดในการถ่ายภาพ

(รูปนี้ถ่ายเดือนมีนาคม ในฤดูใบไม้ร่วง)

ถ้ามีเวลาเหลือเดินเที่ยว อยากให้ลองไปที่ Grey Glacier เป็นที่ที่เหมาะแก่การถ่ายภาพอีกที่หนึ่ง

(รูปนี้ถ่ายปลายเดือนมีนาคม ในฤดูใบไม้ผลิ)  

ที่มา Alejandro Santiago, Marco Grassi
iso.500px.com