PENTAX K-5 IIs กล้องไม่กลัวฟ้า...กลัวฝน




หลายครั้งที่กำลังเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพต้องหยุดลง

เพราะเม็ดฝนเริ่มโปรยปราย หรือน้ำกระเซ็นเข้ามา

อุปสรรคเพียงเท่านี้ไม่สามารถทำให้คนถ่ายภาพท้อถอยได้

กล้องโปรหลายรุ่นจึงมีระบบซีลกันน้ำ และฝุ่นละออง



      PENTAX แนะนำกล้องสายพันธุ์แกร่งให้นักถ่ายภาพนำไปใช้งานอย่างต่อเนื่อง โดยมีความพิเศษในเรื่องความทนทานต่อสภาพอากาศ (Weather-Resistant : WR) ด้วยการ ซีลป้องกันน้ำ ฝุ่นละออง ในทุกรอยต่อ เพื่อรองรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพอันเสี่ยงต่อกล้องจะถูกน้ำกระเซ็นเข้าภายใน โดยเฉพาะในช่วงนี้ฝนฟ้าเริ่มโปรยปรายแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวบ่อยครั้งอันเป็นผลจากการย่างเข้าหน้าฝน แต่อย่างที่เกริ่นไว้ว่าน้ำไม่อาจหยุดจินตนาการให้ดำเนินต่อไปได้การใช้อุปกรณ์ที่ช่วยให้ทำงานอย่างต่อเนื่องย่อมเป็นความได้เปรียบในการได้ภาพที่ผู้อื่นมีโอกาสเหมือนเราได้น้อยมาก ลองไปดูว่ากล้องรุ่นนี้มีอะไรให้ต้องเหลียวกลับมามองกันบ้าง...
      PENTAX K-5IIs คู่หูใหม่ที่จัดมาพร้อมเลนส์ DA 18-135 mm F3.5-5.6ED AL WR (เทียบเท่า 27-202 มม.ในระบบ 35 มม.) ซึ่งเป็นเลนส์ไม่กลัวน้ำ ไม่กลัวฝุ่นละอองเช่นเดียวกันกับกล้องให้สังเกตที่กระบอกเลนส์จะมีวงแหวนสีเขียวคาดไว้เป็นสัญลักษณ์ ดังนั้นในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับสายน้ำ หรือแสงแดดจึงสบายใจได้ว่าทั้งกล้อง และเลนส์ปลอดภัยใช้งานต่อได้แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยตัวกล้องรุ่นนี้มีฝาแฝดออกมาคู่กัน คือรุ่น K-5II กับ K-5IIs แตกต่างที่เซ็นเซอร์รับภาพของรุ่นหลังนั้นไม่มีฟิลเตอร์ Anti-Alaising (AA filter) เพื่อช่วยให้ภาพมีความคมชัด แสดงรายละเอียดจากแสงที่ตกบนเซ็นเซอร์มากที่สุด แต่ก็มีโอกาสเกิดอาการ Moire’ ได้ แล้วทำไมจึงออกแบบและผลิตมาจัดจำหน่ายทั่วโลก นั่นเป็นสิ่งที่ต้องไปพิสูจน์กันในภาคสนาม...

      PENTAX K-5IIs กล้องดิจิตอลSLR (Digital Single Lens Reflex) สำหรับกลุ่มสมัครเล่นเริ่มจริงจัง (Semi Pro.) มาพร้อมประสิทธิภาพที่ใส่มาให้เกินหน้าเกินตากล้องในระดับเดียวกันทั้งหมดหลายต่อหลายอย่าง แม้หน้าตาภายนอกจะดูไม่แตกต่างมากนัก มีการออกแบบขนาดที่กะทัดรัด ชดเชยการจับถือให้กระชับด้วยกริปจับขนาดใหญ่เซาะร่องวางนิ้ว ติดยางกันลื่นได้แน่นหนึบ ซีลยางกันฝุ่น และน้ำทุกรอยต่อช่วยให้ใช้งานในสภาพอากาศหนาวเหน็บถึง -10 องศาเซลเซียส โดยยางที่ใช้ซีลนี้ไม่ต้องไปเปลี่ยนทุกครั้งเวลาออกทริปเหมือนกลุ่มกล้องกันน้ำที่นำไปใช้ใต้น้ำแล้วมีโอกาสเสียหายจากแรงดันอากาศเป็นปัจจัยสำคัญ โครงสร้างหลักกล้องรุ่นนี้ใช้ Magnesium Alloy มีคุณสมบัติ แกร่งทนทาน น้ำหนักเบา ใส่วงแหวน Dial ควบคุมรูรับแสง และความเร็วชัตเตอร์แยกกันทำให้ควบคุมรวดเร็วปรับเปลี่ยนค่าการทำงานของกล้องคล่องตัว แป้นปรับโหมดการทำงานจะหมุนได้รอบตัวโดยมีปุ่มล็อกแป้นไม่ให้เลื่อนเปลี่ยนโหมดขณะเก็บ หรือหยิบออกมาจากกระเป๋ากล้อง โหมดการทำงานเบื้องต้นแบบอัตโนมัติมีให้เลือกทั้ง Program และ Green Zone สำหรับโหมดสร้างสรรค์ภาพด้วยตนเองมีให้ใช้งานหลากหลายมากตั้งแต่ Sv,Tv,Av,TAv,M,B และ X (เป็นโหมดใช้งานร่วมกับแฟลชที่ความเร็วสัมพันธ์สูงสุด 1/180วินาที) ตัวช่องมองภาพจะสว่างใสมองสบายตาเป็นเพราะใต้กะโหลกใช้แก้วปริซึมห้าเหลี่ยม (Pentaprism) แสดงผลภาพ100%ที่หาไม่ได้ง่ายๆในกล้องระดับนี้ด้วยอัตราขยาย 0.92 หรือใช้การมองผ่านจอ LCD ขนาด 3 นิ้วความละเอียดเพิ่มเป็น 921,000 จุด ปรับโฉมให้เป็นแบบ Air gap free ที่ออกแบบใหม่ให้ไม่เหลือช่องว่างระหว่างตัวจอ กับกระจกป้องกันด้านนอก ส่งผลให้ภาพที่เห็นชัดเจนกว่าเดิมเพราะมีอัตราการสะท้อนแสงน้อยลงไปมากประเด็นนี้สำคัญอย่างมากเมื่อใช้งานในสภาพแสงแดดร้อนเปรี้ยงแบบเมืองไทย

 
    PENTAX K-5IIs
พอเห็นสเปคตอนแรกก็อยากได้มาลองดูสักครั้งว่าจะโดดเด่นอย่างที่ทางแบรนด์นำเสนอหรือไม่ เพราะความละเอียด 16 ล้านพิกเซลของเซ็นเซอร์ที่ให้มาหลายท่านอาจมองว่าเหมือนจะไม่มาก แต่ก็ถือว่าไม่น้อย อยากได้ไฟล์คุณภาพสามารถไปปรับใช้เป็นRAW File ให้เลือกไปปรับแต่งภายหลัง หรือใครไม่ทันใจอยากปรับหลังจอก็ทำได้ทันที หรือถ่ายภาพด้วยไฟล์ Jpeg เกิดเปลี่ยนใจอยากได้ภาพล่าสุดเป็นไฟล์ RAW ซะอย่างนั้นก็ยังเปลี่ยนใจทันซอฟท์แวร์ในตัวกล้องจะทำการ Process ไฟล์ให้คุณด้วยหน่วยประมวลผล Prime II ทราบการปรับหลังบันทึกภาพไปแล้วมาดูว่าความสะดวกที่ให้มาง่ายเพียงกดปุ่มปรับเปลี่ยนไฟล์บริเวณใกล้เม้าท์เลนส์ค้างไว้เท่านั้น สำหรับการทำงานในสภาพแสงน้อยตัวกล้องติดตั้งระบบป้องกันภาพสั่นไหว (Shake Reduction) มาให้ในตัวโดยขยับชุดเซ็นเซอร์รับภาพ ดังนั้นจะใช้เลนส์ตัวไหนก็ทำงานร่วมกันกับบอดี้ได้อย่างราบรื่น อีกทั้งระบบการโฟกัสอัตโนมัติยังพัฒนามาเป็นตัวล่าสุด คือ SAFOX X ที่ทางแบรนด์เชื่อมั่นในความสามารถเป็นอย่างมาก มีจุดโฟกัสให้มา 11 จุดใช้ได้ในสภาพแสง +18 EV ถึง -3 EV สัมพันธ์กับการวัดแสงแบบแบ่งโซนมากถึง 77 ส่วน (Multi Pattern) จึงเชื่อได้เลยว่าโอกาสการคำนวณแสงผิดพลาดเกิดได้น้อยมาก ยกเว้นเพียงกรณีต้องการผลลัพธ์ที่กล้องคิดไม่ถึงว่าจะอยากได้ภาพไม่เหมือนแบบทั่วๆไป ขณะอยู่ในสภาพแสงน้อยก็เลือกค่าความไวแสงได้ถึง ISO12800 ขยายได้ถึง 512000 ทีเดียว ซึ่งเป็นทางเลือกสุดท้ายหากไม่สามารถใช้ขาตั้งกล้อง หรือระบบอื่นไม่อาจปรับค่าได้เพียงพอต่อการถือบันทึกภาพด้วยมือเปล่า

F5.6, 1/125s, ISO100, Manual WB, Focal Length 202mm

F5.6, 1/60s, ISO200,AWB, Focal Length 202mm

F5.6, 1/125s, ISO800, AWB, Focal Length 202mm F22,1/10s,ISO100,AWB,Focal Length 117mm,B&W,NoTripod

      PENTAX K-5IIs พกติดกระเป๋าอยู่หลายวันจึงมีโอกาสแวะจอดรถถ่ายภาพตอนพระอาทิตย์ตกดินก่อนถึงทางเข้าบ้าน หรือเดินทางไปถ่ายภาพริมน้ำที่หลังบ้านพักต่างจังหวัดมีโอกาสสัมผัสธรรมชาติร่วมกับเลนส์ช่วงเอนกประสงค์แม้จะเป็นช่วงที่ไม่ไกลมากก็ไม่รู้สึกอึดอัดเพราะโดยปกติจะหยิบเลนส์ช่วงเทเลโฟโต้มาใช้เป็นครั้งคราวยิ่งตอนนี้เลนส์ระยะนี้เป็นที่นิยมจำหน่ายร่วมกับกล้องหลายๆรุ่น ฟังก์ชั่นในกล้องมีให้เลือกใช้หลากหลายแต่ถูกจัดแยกเป็นหมวดหมู่เลือกใช้เข้าใจได้ไม่ยาก อ้าว!อยู่ดีๆฝนก็พรำลงมาอีกแล้วไม่ต่างจากตอนที่ถ่ายภาพเพลินๆแล้วฝนตกก็พาให้เสียอารมณ์แต่นึกอีกทีจะวิ่งหลบฝนไปทำไม...ก็ทั้งกล้อง และเลนส์ไม่กลัวน้ำนี่นาว่าแล้วก็เลือก Digital Filter เปลี่ยนการถ่ายภาพแบบเดิมๆให้กลายเป็นงานศิลปะได้ทันทีทั้งปรับหลังถ่ายภาพ หรือตั้งล่วงหน้าไว้ก็ได้ ฟิลเตอร์ที่ใช้บ่อยก็จะเป็นToy Camera, Monochrome, HDR, Extract Color (เลือกใช้ได้เฉพาะกับการบันทึกภาพแบบ JPEG เท่านั้น)


      PENTAX K-5IIs มีความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องไม่ใช่เล่นๆเพราะทำได้สูงสุด 7 ภาพ/วินาทีช่วยรัวในจังหวะเด็ดๆได้อย่างรวดเร็วครบทุกแอ็คชั่น สำหรับในโหมดปกติตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ตั้งแต่ 30 วินาทีจนถึง 1/8000 วินาที นับว่าสูงมากระดับกล้องมืออาชีพสามารถนำไปใช้ในสภาพแสงแดดจัดเพื่อเปิดรูรับแสงกว้างให้ฉากหลังเบลอสวยงาม หรือถ่ายภาพจังหวะน้ำกระเซ็นขึ้นมาแบบถึงอารมณ์ นอกจากนี้ยังถ่ายภาพง่ายๆด้วยระบบ Live View ที่อยู่ในเกณฑ์ดีแม้จะไม่ไวมากแต่ก็ไม่หน่วงจนเสียจังหวะส่วนเรื่องการบันทึกภาพวิดีโอก็เลือกไฟล์ให้มีความคมชัดระดับ Full HD 1080 p เพียงแตะปุ่มโฟกัสให้ระบบ AF ทำงานจากนั้นกดชัตเตอร์เพื่อให้เริ่มต้นบันทึก



      PENTAX K-5IIs
มีฟังก์ชั่นให้ใช้จนเลือกไม่ถูกหลายฟังก์ชั่นที่มักมีในกล้องรุ่นใหญ่ อาทิการแก้ไขความคลาดสี, แก้ไขอาการโค้งจากมุมรับภาพ ซึ่งการถ่ายภาพต่อเฟรมจะต้องรอการประมวลผลเล็กน้อยไม่สามารถบันทึกภาพต่อเนื่องได้ทันที นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่น AF Fine Adjustment สำหรับการขยับเซ็นเซอร์แก้อาการ Back หรือ Front Focus เมื่อใช้ร่วมกับเลนส์บางตัว อีกตัวที่เด่นมากช่วยชีวิตได้ดีกรณีลืมหยิบสายลั่นชัตเตอร์ใส่กระเป๋าเป็นการกดชัตเตอร์ B เพียงครั้งเดียวแต่จะค้างไว้ถ้าต้องการให้ปิดเมื่อไรก็มากดอีกครั้งให้กระจกดีดกลับลงไป ฟังก์ชั่นนี้พาให้คิดถึงชัตเตอร์ T ที่มีในอดีตเรียกว่าหลักการเดียวกันเลยแต่นักถ่ายภาพไม่ค่อยได้ใช้กันจึงค่อยๆหายไป ส่วนท่านที่ชอบเล่นเทคนิคถ่ายภาพซ้อน (Multi Exposure) แบรนด์นี้จัดมาให้เช่นกัน ยังมีอีกหลายส่วนที่ยังไม่ได้พูดถึงเพราะต้องลองเล่นด้วยตัวเองจึงจะรู้ว่าสิ่งที่ใส่มาให้มันจำเป็นต้องเลือกขึ้นมาใช้ตอนไหนจึงจะเหมาะสมนี่แหละสิ่งที่บอกตั้งแต่ตอนต้นว่าอัดแน่นไปด้วยคุณภาพระดับมืออาชีพ

      PENTAX K-5IIs ช่วยชีวิตเอาไว้หลายครั้งกับการถ่ายภาพจังหวะเร่งด่วนเพียงหมุนไปที่โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติรับรองว่าได้ภาพแน่นอน แต่จะถูกใจแค่ไหนขึ้นอยู่กับทิศทางแสงด้วย เป็นต้นว่าถ่ายภาพย้อนแสงกล้องจะสั่งเปิดแฟลชอัตโนมัติถ้าไม่ต้องการก็อาจไม่ชอบภาพนั้น แต่ถ้ามีฉากหน้าเป็นบุคคลรับรองว่าสวยเด้งโดนใจแน่นอน และอย่างที่ทราบไปแล้วว่าสามารถแก้ไขภาพได้จากตัวกล้องทันทีดังนั้นการจบที่หลังกล้องจึงไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป ก่อนจะแยกย้ายกันไปถ่ายภาพต่อยังไงช่วงนี้ฝนฟ้าตกลงมาแบบไม่ค่อยให้สัญญาน...ดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับทั้งตัวคุณเอง และกล้องแสนรัก (เก็บในตู้กันชื้นจะดีมากเลย) แล้วกลับมาพบสาระดีๆกับการพากล้องไปPLAYเพื่อค้นหาความเป็นตัวตนของกล้องรุ่นนั้นๆมาเล่าสู่กันฟังในโอกาสต่อไปในช่วง BIGPLAY by BIGCamera


Specifications:

- เซ็นเซอร์ CMOS 16 ล้านพิกเซล
- ซีลป้องกันฝุ่นละออง และน้ำทุกรอยต่อ
- วัสดุ Magnesium Alloy
- ช่องมองภาพแสดงผล 100%
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้อง(SR)
- Digital Filter ตกแต่งภาพสวยสมบูรณ์แบบ
Back to top