REVIEW : OLYMPUS PEN E-P5

Olympus PEN E-P5, M.Zuiko Digital 14-42mm f3.5-5.6 II R, F5.6, 1/100s, ISO200, AWB, Pattern Metering, Art Filter
 

กล้องรูปทรงคอมแพคแต่ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้
หากจะนึกถึงแบรนด์ที่อยู่ในใจนักถ่ายภาพทั่วโลก
โอลิมปัสหนึ่งในผู้สร้างตำนานบทใหม่ให้กับวงการถ่ายภาพ
จะยืนในลำดับหัวแถวด้วยความโดดเด่นของรูปทรงและคุณภาพไฟล์

 
    OLYMPUS ผู้ผลิตอุปกรณ์กล้องถ่ายภาพมาอย่างยาวนาน ได้แสดงจุดยืนชัดเจนในรูปแบบการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆให้กับคนถ่ายภาพมาตลอด โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบ หรือธรรมเนียมปฏิบัติที่เคยมีมาก่อนหน้านั้น ณ วันนี้กล้องในสายการผลิตของโอลิมปัสเน้นไปที่กลุ่มกล้องถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ (Mirrorless) มีขนาดตัวกะทัดรัด ใช้ขนาดเซ็นเซอร์รับภาพฟอร์แมต Micro Four Thirds โดยแบ่งกล้องเป็น 2 ตระกูล มีรูปทรงการออกแบบสไตล์คลาสสิกตามเอกลักษณ์เดิมตั้งแต่สมัยฟิล์มใช้ชื่อคล้ายกันเป็นตระกูล PEN และตระกูล OM-D 
 
 

 
     OLYMPUS PEN E-P5 กล้องรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล PEN ที่ถือว่าเป็นพี่คนโตในบ้าน แม้ภาพลักษณ์ภายนอกจะดูไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมชัดเจน แต่คุณสมบัติภายในด้านต่างๆได้รับการพัฒนาให้ทันต่อกระแสโลกไซเบอร์มากยิ่งขึ้นเพื่อรองรับกลุ่มนักถ่ายภาพทั้งรุ่นเก่า และรุ่นใหม่ให้สามารถร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความคิดในภาพให้รับรู้ถึงกันโดยผ่านการเชื่อมต่อไร้สายที่ทันสมัย และรวดเร็วสู่สังคมออนไลน์
 
 
     OLYMPUS PEN E-P5 กล้องมีสไตล์บ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้ใช้ มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ สีเงิน และสีขาว ตัวกล้องใช้เทคโนโลยีการทำให้เนื้อโลหะมีผิวสัมผัสเหมือนกับวัสดุหนัง นับว่าเป็นความใส่ใจในรายละเอียดสร้างศิลปะชั้นเยี่ยมให้คงอยู่ได้นาน  บริเวณสันกริปด้านหน้ายังคงนูนขึ้นมาให้มีหน้าตัดเอียงรับกับสรีระของมือ ขณะที่ด้านหลังทำสันโค้งรองรับนิ้วโป้งให้จับกระชับ ขณะเดียวกันก็สามารถหมุนวงแหวน Dial ได้ถนัด ซึ่งความสำคัญในการถ่ายภาพให้ได้อย่างใจก็มาจากการปรับควบคุมด้วยความรวดเร็วอันเกิดจากความคุ้นเคย และถูกตามหลักสรีระศาสตร์ ดังนั้นก้านโยกสลับฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถตั้งค่าปรับได้เองจึงมีประโยชน์มาก อาทิ ในโหมดการทำงานที่ 1 สามารถเลือกตั้งให้ Dial หน้าเป็นการตั้งค่ารูรับแสง ส่วน Dial หลังตั้งสำหรับปรับค่าความเร็วชัตเตอร์ และโหมดการทำงานที่ 2 ก็ตั้งให้เป็นการปรับค่าความไวแสง กับค่าไวท์บาลานซ์ เมื่อควบคุมการปรับค่าต่างๆได้โดยไม่ต้องละสายตาจากจอ LCD หรือวิวไฟน์เดอร์ (VF-4) คุณก็พร้อมระเบิดความคิดอันสุดยอดออกมาได้ในระยะเวลาอันสั้นทันต่อเหตุการณ์เฉพาะหน้า
 
 
     OLYMPUS PEN E-P5 ถ่ายทอดรายละเอียดของภาพผ่านเซ็นเซอร์ Live MOS ความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซล ในฟอร์แมตMicro Four Thirds (เมื่อประกอบเลนส์จะต้องคูณสองจึงจะได้ค่าเทียบเท่าทางยาวโฟกัสของกล้อง 35 มม.)ใช้ตัวประมวลผลใหม่Truepic VI ที่ทำงานสัมพันธ์กับระบบต่างๆเพื่อไม่ให้เกิดอาการคิดช้า นี่จึงเป็นที่มาของระบบการโฟกัสภาพได้รวดเร็ว (Fast AF) สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 9 ภาพต่อวินาที และถ่ายภาพที่ความเร็วสูงสุดได้ 1/8000 วินาที (สูงที่สุดในกล้องตระกูล PEN) การควบคุมทั้งหมดนี้สามารถทำให้เป็นจริงผ่านจอระบบสัมผัสขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.04 ล้านจุดไม่ว่าจะเป็นการ Touch Focus หรือ Touch Shutter หรือเลือกเปลี่ยนค่าในเมนูจะสะดวกสบาย โดยจอสามารถปรับมุมก้ม-เงยได้จึงช่วยให้การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ เกิดมุมมองใหม่ๆอย่างสร้างสรรค์แม้อยู่ในสภาพแสงแดดเจิดจ้า นอกจากนั้นภายในตัวกล้องมีติดตั้งระบบป้องกันความสั่นไหวถึง 5 แกน (5-Axis IS) อันนี้ช่วยได้อย่างมาเวลาแสงน้อยแต่ต้องการใช้เลนส์ที่มีช่วงทางยาวโฟกัสไกลๆเราสามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำกว่ากฎ 1/ทางยาวโฟกัสได้สบายไม่ต้องกลัวภาพจะไม่ชัด ยกเว้นจะแกว่งมือไปมา หรือยืนเซไปเซมาไม่มั่นคงอันนี้ระบบป้องกันใดๆก็ช่วยไม่ไหวต้องแก้ที่คนถือกล้องก่อนแล้วล่ะ
 
 
     OLYMPUS PEN E-P5 กล้องที่สามารถถ่ายทอดความเป็นศิลปินในตัวของแต่ละคนได้อย่างอิสระหลากหลายด้วยโหมดการถ่ายภาพ และโทนสีอันเป็นเอกลักษณ์ เหมือนสถานที่ที่เรานำไปค้นหาไลฟ์สไตล์ของผู้คนซึ่งสะท้อนศิลป์ผ่านร่างกาย การแต่งตัว บุคลิกการแสดงออกหากมองอย่างผิวเผินอาจดูเหมือนกัน แต่เมื่อลงลึกกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในรายละเอียดของเนื้อหา เฉกเช่นเดียวกับลูกเล่นในโหมดการถ่ายภาพของกล้องรุ่นใหม่นี้หลายๆคนมักมองว่า Effect ที่สร้างชื่อเสียงมาตลอดอย่างArt Filter  อาทิ Toy Camera, Cross Processทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่กล้องจากแบรนด์อื่นก็ทำได้ ในตอนแรกผมก็คิดเช่นนั้นแต่เมื่อทดลองใช้จริงคุณจะพบว่าไฟล์ภาพที่ได้จะมีความละเอียดสูงสุดตามที่ตั้งค่าไว้ตัวไฟล์จะไม่ถูกบีบอัดลงไปเหมือนกับการจับภาพไปใส่เฟรม (Template) ที่ซอฟท์แวร์กล้องเซ็ตค่าสำเร็จรูปไว้ให้จากโรงงาน และรายละเอียดเกรนในภาพก็ถูกคิดมาอย่างละเมียดละไมช่างรู้ใจนักถ่ายภาพจริงๆ ของเล่นใหม่ที่ชอบนิยมตกแต่งภาพในสมาร์ทโฟนผ่าน App. คล้ายการจัดหน้าของ Photobook ก็มีมาให้ในชื่อPhoto Story เป็นการถ่ายภาพตาม Template ที่จัดมาให้เลือกหลายแบบ หลายสี ถ่ายทีละภาพแล้วรวมเป็น 1 ไฟล์ในนามสกุล Jpeg และไฟล์ของแต่ละภาพยังจัดเก็บไว้เป็นไฟล์ RAW จึงสะดวกต่อการนำภาพไปตกแต่งแก้ไข หรือปรับเปลี่ยนโทนสีภายหลังโดยไม่สูญเสียรายละเอียดข้อมูลไฟล์ดิบใครที่ชอบเล่น Instagram คงจะถูกใจไม่น้อย ตอนถ่ายภาพอยู่หากไม่ถูกใจภาพนั้นอยากถ่ายใหม่ก็สามารถลบออกแล้วถ่ายภาพใหม่แทนได้เลยไม่ต้องยกเลิกแล้วถ่ายภาพใหม่ทั้งหมด โดยการถ่ายภาพแต่ละครั้งยังสามารถปรับค่าการเปิดรับแสงได้อิสระไม่ถูกจำกัดเหมือนโปรแกรมสำเร็จรูปทั่วไป มีภาพที่ประทับใจภาพหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกำลังโพสต์ท่าทางเป็นแบบให้เพื่อนเก็บความประทับใจอยู่      ผมก็เข้าไปขออนุญาติบันทึกเก็บสีสันความเป็นศิลปินในตัวของเขามาถ่ายทอดให้ชาว Photolista ได้ทัศนาความจี๊ดเข็ดฟันในการแต่งตัว และศิลปะบนร่างกายของเจ้าหล่อน ซึ่งก็มีโอกาสกดชัตเตอร์เพียงครั้งเดียวก่อนที่สองนักท่องเที่ยวจะรีบโบกแท๊กซี่แล้วจากไป... ผมก็รีบเช่นกัน...รีบกดปุ่มดูภาพตรวจสอบความคมชัดของภาพเมื่อสักครู่ว่าความรวดเร็วที่ระบบทำงานนั้นมีความแม่นยำด้วยหรือไม่ ผลสรุปก็ดังภาพตัวอย่างสีสันเจ็บจริงๆประกอบกับความร่วมมือในการโพสต์ท่าทางประหนึ่งมืออาชีพจึงทำให้ภาพนี้โดดเด่นมากด้วยการผสมผสานของ Art Filter แบบ Cross Process จึงช่วยสร้างอารมณ์อาร์ตได้มากขึ้นไปอีก อยากจะบอกว่าถ่ายอย่างไรก็สวยนี่จึงเป็นความประทับใจที่คุณจะได้รับเมื่อมีกล้องตัวนี้อยู่ในมือ
 
 
     OLYMPUS PEN E-P5 ทำให้คนหลงเสน่ห์การใส่กรอบให้ภาพเพราะสามารถเนรมิตภาพธรรมดาๆให้ดูน่าสนใจอย่างน่าอัศจรรย์ อาทิ กรอบขอบสีดำ, กรอบแบบมีขอบสีขาวฟุ้ง สีสันภาพสดใสอิ่มตัว สำหรับความสุดยอดในเรื่องการหยุดภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์สูงสุดถึง 1/8000 วินาที ที่ส่วนใหญ่จะพบได้เฉพาะกล้อง DSLR ระดับโปรสามารถนำไปใช้กับการหยุดจังหวะการไหวของวัตถุให้หยุดนิ่งสนิท แม้จะมีโอกาสใช้ไม่มากสำหรับการถ่ายภาพทั่วไป แต่เมื่อใดที่ต้องการไปถ่ายภาพกีฬาที่มีความเร็วของวัตถุเข้ามาเกี่ยวข้อง อาทิ มอเตอร์สปอร์ต จักรยานวิบาก ความเร็วชัตเตอร์สูงจะเป็นประโยชน์อย่างมาก หรือกรณีถ่ายภาพนางแบบที่ต้องการเปิดค่ารูรับแสงกว้างๆเพื่อให้ได้ระยะชัดตื้น (หน้าชัด หลังเบลอ) ในสภาพแสงแดดแรงๆ การมีความเร็วชัตเตอร์สูงให้เลือกมากจะช่วยให้ได้ภาพตามความต้องการอย่างใจคิด เดินถ่ายภาพมานานพอสมควรสังเกตระดับสเกลพลังงานแบตเตอรี่เพิ่งจะลดลงไปขีดเดียวเอง แสดงว่าแบตเตอรี่อึดใช้ได้เลยเนื่องจากระบบการทำงานต่างๆกินพลังงานงานน้อยกว่าปกติ แต่ให้ปลอดภัย และสบายใจยามเดินท่องเที่ยวควรหาแบตเตอรี่สำรองอีกสักก้อนให้อุ่นใจ
 
TEMPLATE หลากหลายแบบที่มีให้เลือกสร้างสรรค์ภาพ
 
     OLYMPUS PEN E-P5 พร้อมส่งผ่านข้อมูลภาพทั้งก่อนกดชัตเตอร์ และหลังจากบันทึกภาพเรียบร้อยด้วยอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ อาทิสมาร์ทโฟน แท๊บเล็ต โดยอาศัยโปรแกรม Olympus Image Share (O.I.Share) ที่เป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้กับนักถ่ายภาพยุคดิจิตอล จากการใช้งาน Remote Viewfinder ร่วมกับสมาร์ทโฟนบอกได้เลยว่าเชื่อมต่อได้ง่าย รวดเร็ว เพียงเข้าไปที่โหมดดูภาพแล้วแตะที่ Wi-Fi กล้องจะปรากฏสัญลักษณ์ QR Code ขึ้นมา สักครู่ที่หน้าจอของสมาร์ทโฟนจะปรากฏภาพจากเลนส์ของกล้องขึ้นมาคุณสามารถกดชัตเตอร์แล้วเลือก Save ภาพล่าสุดลงหน่วยความจำสมาร์ทโฟนสำหรับแชร์ภาพส่งต่อให้เพื่อนในโลกออนไลน์ เรียกว่าง่าย สบายรวดเร็ว แต่ให้คุณภาพสูงกว่ากล้องในสมาร์ทโฟนอย่างมากอยากจะปริ้นท์ภาพเป็นโปสการ์ดแจกเท่ห์ๆก็ทำได้เนียนไม่มีเกรนแตก หรือจัดทำ Photobook หลังจากกลับจากท่องเที่ยวเพื่อแจกเพื่อนร่วมทริปรับรองมีเรื่องให้เม้าส์อีกมากมายไม่รู้จบ
 

 
     OLYMPUS PEN E-P5 ยังมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกใช้เพื่อสนับสนุนการใช้งานกล้องให้คล่องตัวขึ้นหลากอย่าง อาทิ ช่องมองภาพอิเล็คทรอนิคส์รุ่นใหม่ล่าสุด VF-4 ความละเอียดเป็น 2 ล้านจุดเพิ่มระบบ Eye Sensor ตรวจจับสายตาเมื่อแนบกับช่องมองภาพโดยภาพที่ปรากฏใน LCD จะปิดแล้วสลับไปแสดงผลในช่องมองไฟฟ้าแทน สำหรับนักถ่ายภาพที่ชื่นชอบการถ่ายภาพแนว Long Exposure (ตั้งเปิดความเร็วชัตเตอร์ค้างไว้นานๆ) ต้องไม่พลาดกับการตั้งชัตเตอร์ B (ในโหมดจะใช้ว่า Real Time) เป็นความสามารถของเทคโนโลยีที่จะแสดงความเปลี่ยนแปลงภาพควบคู่ไปทุกนาที หากพอใจผลของภาพเมื่อไรก็กดชัตเตอร์หยุดได้ทันทีไม่ต้องรอชมภาพหลังกดชัตเตอร์อีกต่อไป โหมดนี้ต้องขอบอกว่า เยี่ยมมากเพราะช่วยให้นักถ่ายภาพรุ่นใหม่เข้าใจ และเลือกใช้ระยะเวลาการเปิดรับแสงได้เหมาะสมลงตัวไม่ต้องลองผิดลองถูกเพียงเห็นว่าสวยก็หยุดการรับแสงได้ในวินาทีนั้น โอ้โห! แล้วอย่างนี้เมมโมรี่การ์ดจะพอเก็บภาพสวยๆกันหรือเปล่าเนี่ยะ! (สงสัยต้องย่องไปซื้อเมมโมรี่การ์ดมาเพิ่มไว้ซะแล้ว) อ้อ...อย่าลืมใช้ขาตั้งกล้องทุกครั้งด้วยนะครับภาพจะได้คมชัดไม่มานั่งบ่นเสียดายภายหลังเวลาไปขยายภาพดูในคอมพิวเตอร์แล้วมันไม่ชัดอดเข้า Hall of Frame จะไปโทษใครก็ไม่ได้...ต้องร้องว่า “รู้งี้ใช้ขาตั้งกล้องก็ดี”
 

เนรมิตภาพสุดยอดแห่งช่วงเวลาด้วยเทคนิค Long Exposure
 
 
     BIG Camera ศูนย์รวมกล้องดิจิตอล ที่มีความสุขให้เลือกมากที่สุด ขอมอบสิ่งดีๆด้วยสาระความรู้ ความสนุก สอดแทรกแง่คิดดีๆอย่างนี้เป็นประจำทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน อยากรู้อยากสนุกกับการนำเสนอกล้องรุ่นใหม่ๆผ่านตัวหนังสือ และภาพถ่าย อย่าพลาด! ติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาความรู้ควบคู่กับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ไม่เคยหยุดนิ่งของโลกใบนี้ แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ครั้งต่อไป...สวัสดีครับ
 
Back to top