RICOH GR DIGITAL IV

 

          RICOH GR Digital IV กล้องคอมแพคระดับคุณภาพสูงที่มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยุคฟิล์มที่สร้างตำนาน GR ให้กล่าวขานถึงคุณภาพของเลนส์ญี่ปุ่นที่ไม่เป็นรองเลนส์จากเยอรมัน กระทั่งมาสู่ระบบดิจิตอลรูปทรงของกล้องตระกูลนี้ก็ยังคงอยู่ และพัฒนามาถึงรุ่นที่ 4 ของตระกูล GR Digital โดยมีประสิทธิภาพที่เพิ่มหลายฟังก์ชั่น


มีอะไรบ้าง...

          GR Lens 28 mm F/1.9 เลนส์ที่ให้ความสว่างสูงเปิดหน้าเลนส์ได้ถึง F1.9 ซึ่งหาได้ไม่ง่ายนักในกล้องกลุ่มนี้ที่มีความคมชัดสูง ให้ผลของความคลาดต่างๆ ต่ำ ทั้งในส่วนของ Chromatic aberration และ Distortion โดยทำงานร่วมกับเซนเซอร์รับภาพแบบ CCD ขนาด 1/1.7 ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล และหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ (GR Engine IV) ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น

          จอภาพขนาด 3 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 1.23 ล้านพิกเซลให้ความสว่างมากกว่าจอแสดงผลของกล้องรุ่นเดิมถึง 1.7 เท่า ช่วยให้การแสดงผลต่างๆ ในกลางแจ้งทำได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งมีระบบปรับความสว่างของจอแสดงผลอัตโนมัติ ให้สัมพันธ์เหมาะสมกับความสว่างของวัตถุ และสภาพแสงในขณะนั้น

          VC : Vibration Compensation เป็นครั้งแรกกับการใส่ระบบกันภาพสั่นไหวเข้ามาในกล้องตระกูลนี้ โดยสามารถกันสั่นไหวได้มากถึง 3.2 สตอป ดังนั้นภาพที่บันทึกย่อมมีความคมชัดสูงได้อย่างไม่ต้องสงสัย

          ระบบ Hybrid AF เป็นเทคโนโลยีระบบโฟกัสอันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Ricoh ผ่านการใช้งานร่วมกับระบบ Hybrid AF และระบบการหาโฟกัส CCD Contrast AF ทำให้กล้อง GR DIGITAL IV สามารถโฟกัสได้เร็วถึง 0.2 วินาที และแน่นอนว่าในการโฟกัสระยะใกล้แบบมาโคร กล้องก็สามารถหาโฟกัสได้เร็ว และแม่นยำขึ้นกว่ากล้องรุ่นก่อนหน้า ในการถ่ายภาพแบบ Snapshot กล้องสามารถตอบสนองได้เร็วขึ้น โฟกัสเข้าถึงจุดที่ต้องการได้เร็ว และแม่นยำ ด้วยการทำงานร่วมกับเซนเซอร์ AF ภายนอก (เซนเซอร์ของระบบ Hybrid AF) ซึ่งจะช่วยคำนวณระยะให้แบบอัตโนมัติ

 

รายละเอียดในแต่ละจุดของกล้องรุ่นนี้ ตั้งแต่เลนส์ แฟลช โหมดการถ่ายภาพ ช่องใส่แบตเตอรี่ ฝาครอบเลนส์โลหะ และตำแหน่งควบคุมการทำงาน


ลูกเล่นตั้งค่าการถ่ายภาพต่างๆ ในตัวกล้อง


 

          ระบบ Auto Bracket สามารถถ่ายภาพคร่อมได้ทั้งค่าแสง และคร่อมค่าไวท์บาลานซ์ และล่าสุดเพิ่มความสามารถในการคร่อมค่าความเปรียบต่าง, คร่อมช่วงการรับแสง (Dynamic Range Compensation) และคร่อม Image settings ซึ่งมีความพิเศษเมื่อกดชัตเตอร์เพียงครั้งเดียวกล้องจะทำการบันทึกภาพให้เอง 3 ภาพ แต่ให้โทนสีแตกต่างกันตามที่ตั้งในเมนู Image Setting

          ในกล้อง Ricoh GR Digital IV เพิ่มโหมดสีแบบ Positive Film และ Bleach Bypass ที่ให้โทนภาพสีซีด และลดความสดใสของภาพเพื่อให้เกิดความสวยงาม และสไตล์ที่แตกต่างสร้างสรรค์ได้หลากหลายยิ่งขึ้น

 

 


          ระบบ Multiple exposure โดดเด่นด้วยการถ่ายภาพซ้อนได้มากถึง 5 ภาพ โดยเก็บไฟล์แต่ละครั้งไว้ให้ด้วย และตัวกล้องยังได้เพิ่มระบบชัตเตอร์ B และ T เข้ามอำนวยความสะดวกาด้วย เพื่อใช้บันทึกแสงเป็นเวลานานทั้งเวลากลางคืนในสภาพแสงต่ำมาก และเวลากลางวันเมื่อใช้ร่วมกับฟิลเตอร์ ND ข้อแตกต่างของชัตเตอร์ทั้ง 2 แบบ คือ ชัตเตอร์Bต้องกดปุ่มค้างไว้ขณะบันทึกภาพ แต่ชัตเตอร์Tเมื่อกดชัตเตอร์ไปแล้วม่านชัตเตอร์จะเปิดค้างจนกว่าจะกดชัตเตอร์ลงไปอีกครั้งเพื่อให้ม่านชัตเตอร์ปิดลงมา

 


          สัดส่วนภาพ กล้องหลายๆ รุ่นในปัจจุบันสามารถเลือกสัดส่วนภาพได้เพียง 2 แบบ แต่ใน Ricoh แต่ละรุ่นยังคงรูปแบบของสัดส่วนภาพให้ใช้ได้ถึง 4 รูปแบบ ได้แก่ 1:1, 3:2, 4:3 และ 16:9

สัดส่วนภาพขนาด 1:1 ให้ภาพเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเหมือนการถ่ายภาพด้วยกล้อง Medium Format ที่นิยมใช้ในวงการโฆษณา เมื่อไปอัดขยายภาพจะเกิดพื้นที่ว่างสีขาวด้านซ้าย-ขวาในกระดาษ

สัดส่วนภาพขนาด 3:2 ให้ภาพเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เป็นมาตรฐานของกล้อง DSLR เมื่อไปอัดขยายภาพตามแล็ปสีจะให้ภาพเต็มกระดาษพอดีไม่ถูกตัดส่วนใดๆ เลย

สัดส่วนภาพขนาด 4:3 ให้ภาพเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เป็นมาตรฐานของกล้อง Compact เมื่อไปอัดขยายภาพตามแล็ปสีจะถูกตัดส่วนด้านซ้าย-ขวา หรือบนล่างตามแต่ผู้อัดภาพจะเห็นสมควร หากต้องการให้เห็นเต็มภาพจะต้องมีพื้นที่ว่างสีขาวเกิดขึ้น

สัดส่วนภาพขนาด 16:9 ให้ภาพเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ เป็นการเลียนแบบภาพแนวพาโนรามา (Panorama) เมื่ออัดภาพเสร็จจะมีพื้นที่ว่างด้านบน และด้านล่างมาก ซึ่งการถ่ายภาพแบบนี้สะดวกสำหรับการนำภาพแบ่งปันผ่านจอโทรทัศน์

          สำหรับสัดส่วนภาพนอกจากนี้ในกล้องรุ่นอื่น ส่วนใหญ่ทำเพื่อให้ภาพเป็นแนวตั้ง อาทิ 2:3

          ตอนนำไปใช้จะสนุกเมื่อเห็นสถานการณ์เหมาะกับสัดส่วนแบบไหนก็ปรับทันทีด้วยการเรียกจากปุ่ม Adj. ในตำแหน่งนิ้วหัวแม่มือที่ถือว่าเป็นการเข้าเมนูลัดเพื่อตั้งค่าอย่างรวดเร็ว

 

นอกจากนั้นยังเพิ่มความสามารถในการตั้งค่าต่างๆ ให้สะดวกยิ่งขึ้น ดังต่อไปนี้ :

- ระดับน้ำอิเลคทรอนิคส์ที่ใช้ในแนวก้ม-เงยของกล้องได้ด้วย (ทั้งถ่ายภาพแนวตั้ง และแนวนอน)
- เพิ่มความสามารถในการใช้งานปุ่ม Fn1 และ Fn2 ที่สามารถตั้งค่าเป็นคู่ และบันทึกเก็บเอาไว้ได้ เพื่อให้ดึงการตั้งค่าที่ตั้งเอาไว้แล้วมาใช้ได้อย่างสะดวก และเหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์
- ระบบ My Settings ได้เพิ่มช่องสำหรับการบันทึกสูงสุดถึง 12 รูปแบบ เพื่อให้สามารถตั้งค่าต่างๆ และบันทึกลงไปได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยค่าที่ตั้งเอาไว้สามารถบันทึกลงในการ์ด SD และช่างภาพสามารถนำการตั้งค่านั้นไปแบ่งปัน
- รองรับการใช้งานร่วมกับการ์ดแบบ Eye-Fi เพื่อใช้ในการโอนถ่ายไฟล์แบบไร้สายจากกล้องเข้าสู่คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อื่นๆ หรือเพื่อการแบ่งปันในโลกอินเตอร์เน็ต เมื่อใช้งานการ์ดชนิดนี้ จะมีสัญลักษณ์เฉพาะของระบบแสดงบนหน้าจอของกล้องให้ทราบ


เปิดหน้ากล้อง F2.5, ความเร็วชัตเตอร์ 1/133 วินาที, ISO100, NoFlash

เปิดหน้ากล้อง F2.5, ความเร็วชัตเตอร์ 1/620 วินาที, ISO100, NoFlash

เปิดหน้ากล้อง F2.5, ความเร็วชัตเตอร์ 1/440 วินาที, ISO200

เปิดหน้ากล้อง F4, ความเร็วชัตเตอร์ 1/400 วินาที, ISO200, ชดเชยแสง +1.3

เปิดหน้ากล้อง F9, ความเร็วชัตเตอร์ 2.5 วินาที, ISO80, ขาตั้งกล้อง

เปิดหน้ากล้อง F9, ความเร็วชัตเตอร์ 2.5 วินาที, ISO80, ขาตั้งกล้อง

เปิดหน้ากล้อง F9, ความเร็วชัตเตอร์ 4 วินาที, ISO80, ขาตั้งกล้อง

เปิดหน้ากล้อง F5.6 , ความเร็วชัตเตอร์ 1/3 วินาที, ISO400, ขาตั้งกล้อง

 

บทพิสูจน์...

          ภาพด้านบนเป็นการนำกล้องไป Play ในสภาพแสงที่แตกต่างกันตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น จนเปลี่ยนไปเป็นพระจันทร์ส่องแสงเพื่อพิสูจน์คุณภาพของเลนส์ในด้านความคมชัด สีสันที่ได้ ตลอดจนการควบคุมแสงแฟลร์เมื่อถ่ายภาพย้อนแสงเต็มๆ และพิสูจน์สัญญานรบกวนเมื่อใช้ในสภาพแสงต่ำที่เป็นปัญหามากในกล้องคอมแพค อีกทั้งพยายามหาวัตถุที่มีความเคลื่อนไหว และมีวัตถุหลากหลายอยู่ใกล้ๆ กัน เพื่อพิสูจน์ระบบการโฟกัสภาพแบบ Hybrid

บทสรุป RICOH GR Digital IV...

          RICOH GR Digital IV สร้างผลงานได้อย่างประทับใจในทุกๆ สิ่ง อาจมีอึดอัดบ้างในเรื่องของเลนส์ที่เป็นเลนส์เดี่ยวที่มีมุมรับภาพกว้างทำให้ต้องพยายามเข้าใกล้วัตถุให้มากเพื่อช่วยให้แลยิ่งใหญ่อลังการประกอบกับต้องหาฉากหน้า (Foreground) มาสร้างมิติเพิ่มด้วย สังเกตจากภาพพลุที่ใช้ไฟประดับตามต้นไม้มาวางไว้ด้านขวาของภาพเพื่อถ่วงดุลกับพลุ ดอกไม้ไฟทางด้านซ้าย

          สำหรับระบบการโฟกัสภาพทำได้แม่นยำ รวดเร็ว ทั้งในสภาพแสงปกติ และในสภาพแสงต่ำ โดยเลือกใช้การเคลื่อนตำแหน่งการโฟกัสช่วยเมื่อวัตถุมีขนาดเล็ก เช่นตอนที่ถ่ายภาพตั๊กแตนในดอกบัวด้วยโหมดมาโคร (ไม่ใช้ขาตั้งกล้องอาศัยระบบกันสั่น) ส่วนเรื่องของแสงที่ฟุ้งเข้าหน้าเลนส์เมื่อถ่ายภาพย้อนแสงผลลัพธ์ถือว่าเยี่ยมมาก (สังเกตจากภาพขาว-ดำ) ไม่มีวงแสงเป็นดวงๆเกิดขึ้นเลย ตลอดการ Play มีความคล่องตัวสูง เปิดการทำงานได้เร็วทันท่วงทีไม่พลาดจังหวะสำคัญ ท่านที่มองหากล้องพกพาใช้ได้ทุกวาระ โอกาส ขอแนะนำเลยว่าคุณเจอผู้ช่วยคนเก่ง และไว้ใจได้แล้ว

หมายเหตุ : RICOH GR Digital IV มีรุ่นพิเศษเป็นสีขาว (White Edition) มาจำหน่ายด้วย โดยมีอุปกรณ์มาตรฐานเข้าคู่กัน คือ สายคล้องมือ กับฝาครอบเลนส์มีสัญลักษณ์ “GR” กำกับไว้ และยังมีออฟชั่นเปลี่ยนหนังหุ้มกริปให้เลือกอีกด้วย

 

Metal Lens Cap

Hand Strap

 

Back to top